หากถือว่าสถานการณ์ “ประเทศกูมี” เป็นเช่นเดียวกับการต้อนรับ น้องใหม่ในทางการเมือง

จังหวะก้าวของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ก็ต้องสะดุด

หากถือว่าการเสนอและอาสาเข้าไปเป็น “แอดมิน” ในการนำตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าสู่โลกออนไลน์ ไม่ว่าเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ เป็นความสำเร็จ

กระทั่งเป็น “กระดานหก”ให้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้เป็น “โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี”คนใหม่

แทนที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

การประสบเข้ากับ “ประเทศกูมี”ก็ทำให้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มีอันต้องหกคะเมนตีลังกา

ไปพร้อมกับตำแหน่ง “โฆษกรัฐบาล”

ความจริง การเข้ารับตำแหน่ง “รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง” ก็ตกเป็นเป้าแห่งการวิพากษ์วิจารณ์อย่างยิ่งอยู่แล้ว

เพราะเหมือนกับเป็นการปูนบำเหน็จรางวัล

เป็นรางวัลภายหลังจาก นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อำลาจากพรรคประชาธิปัตย์และผันตนเองไปเป็นว่าทีกรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ

ตะกอนจาก “มวลมหาประชาชน”ซึ่งเคยนอนก้นก็ได้รับการกระพือขึ้นมาอีกอย่างคึกคัก

พอเกิดปรากฏการณ์ “ประเทศกูมี”

ไม่เพียงแต่จะนำไปสู่การเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง “ประเทศกูมี” กับบทเพลง “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน”

หากแต่ยังทำให้แต่ละภาพที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เคยแสดงบทบาทในระหว่างเป่านกหวีด “ชัตดาวน์”ก็สว่างไสว

ที่เคยเจื้อยแจ้วก็เริ่มติดอ่าง เงอะๆงะๆขึ้นมา

ความจริง การออกมาตั้งข้อสังเกต “ประเทศกูมี”เป็นการทำร้ายประเทศของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หวังจะให้เป็นทางลงสำหรับ “ประเทศกูมี”

แต่สภาพกลับกลายเป็นการผลักดันให้ “ประเทศกูมี”ทะลุไปยังยอดวิวเกือบ 25 ล้าน

เท่ากับ “ประเทศกูมี” กลายเป็นเพลง “ปราบเซียน”

ไม่ว่าจะเป็นเซียนใน “ทำเนียบรัฐบาล” หรือเซียน “แอดมิน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน