ปฏิทินเลือกตั้งสู้ปฏิทินสีแดง?

ปฏิทินเลือกตั้งสู้ปฏิทินสีแดง? บรรยากาศการเมืองคึกคักขึ้นมาทันตา ภายหลัง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้รับมอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล ให้ตั้งโต๊ะชี้แจงปฏิทินเกี่ยวกับการเลือกตั้ง สรุปว่า

หลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (...) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.. เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 11 ธันวาคม 2561 จะ เริ่มนับกำหนดเวลาจัดเลือกตั้งส..ให้ เสร็จภายใน 150 วัน คือ ไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม 2562

จากการหารือกับ กกต.เห็นว่าช่วงเวลาเหมาะสมคือ 24 กุมภาพันธ์ 2562

ในเดือนธันวาคม จะมีประกาศพระราชกฤษฎีกา(...) เลือกตั้งส.. ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นผู้ยกร่างและเสนอต่อรัฐบาลเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ

เมื่อมีพ... เลือกตั้งส..ออกมาวันใด ภายใน 5 วันหลังประกาศใช้ ให้กกต.ออกประกาศยืนยันวันเลือกตั้ง ประกาศเขต เลือกตั้ง และจำนวนส..แต่ละเขต

ภายใน 25 วัน ให้ประกาศวันรับสมัคร ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.. และพรรคการเมืองต้องแจ้งชื่อผู้ที่จะเข้ารับการเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีให้กกต.รับทราบ

จากนั้นจะไปสู่การปลดล็อกคำสั่งคสช.ฉบับที่ 57/2557 ประกาศคสช.ฉบับที่ 3/2558 และ 13/2561 ซึ่งจะทำให้พรรค การเมืองเริ่มทำกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้งได้

ทั้งนี้ พรรคการเมืองจะมีเวลารณรงค์หาเสียง 60 วัน ถือว่ามากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

และวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 จะมีการเลือกตั้งส..ทั่วประเทศ 500 คน

เดือนมีนาคม เป็นช่วงกกต.พิจารณาข้อร้องเรียน ให้ใบเหลืองใบแดงในการเลือกตั้ง

เดือนเมษายน กกต.ต้องประกาศผลเลือกตั้งส.. ภายในวันที่ 24 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายตามกฎหมายกำหนดกรอบเวลา 60 วันนับจากวันเลือกตั้ง

ถ้ายังได้ส..ไม่ครบจำนวนให้ประกาศผลไปก่อนแล้วสามารถยกเลิกในภายหลังได้

เดือนพฤษภาคม 2562 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะสิ้นสุดลง 1 วันก่อนเสด็จฯเปิดการประชุมรัฐสภา โดยกำหนดการเสด็จฯ เปิดประชุมรัฐสภาจะสิ้นสุดภายในวันที่ 8 พฤษภาคม และเมื่อเสด็จฯ เปิดประชุมรัฐสภาแล้ว จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา

ต่อด้วยการเลือกนายกรัฐมนตรี

เมื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว ต้องจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดใหม่ ส่วนรัฐบาลชุดเก่าและคสช.จะสิ้นสุดลงเมื่อครม.ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่

ภายในเดือนมิถุนายน 2562

ส่วนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (..) 250 คน

ระหว่างวันที่ 16-27 ธันวาคม กกต.จะดำเนินการคัดเลือกส..ระดับอำเภอ จังหวัดและประเทศ ให้ได้ 200 คน เพื่อส่งรายชื่อให้คสช.คัดเลือกเหลือ 50 คน และสำรองไว้ 50 คน

วันที่ 2 มกราคม 2562 พร้อมกันนี้ คสช.ต้องตั้งคณะกรรมการสรรหา 9-12 คน เพื่อคัดเลือกส..ให้ได้ 400 คนภายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เพื่อเสนอให้คสช.พิจารณาเหลือ 194 คน สำรอง 50 คน และมีส..โดยตำแหน่งคือ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ 6 คน รวมเป็น 250 คน

โดยรายชื่อดังกล่าว คสช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 27 เมษายน เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ คสช.พิจารณาให้แล้วเสร็จ ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งส..ภายใน 3 วัน

เกี่ยวกับสถานะรัฐบาลปัจจุบัน

นายวิษณุ เครืองาม ชี้แจงว่า รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ เว้นแต่จะมีเหตุใดเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องพ้นไป เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้คสช.และรัฐบาลนี้อยู่แบบมีอำนาจเต็มต่อไป จนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่

สำหรับปฏิกิริยาฝ่ายการเมืองต่อไทม์ไลน์เลือกตั้งดังกล่าว มีทั้งขานรับ มีทั้งเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

แน่นอนในส่วนพรรคพลังประชารัฐ ย่อมไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งในเรื่องการปลดล็อกที่ขยับเลื่อนออกไปเป็นหลังจาก มีพ...เลือกตั้งส..แล้ว รวมถึงกำหนดวันเลือกตั้ง

กล่าวกันว่าปฏิทินไทม์ไลน์เลือกตั้งที่รัฐบาลคสช.จัดทำขึ้น ก็เพื่อรองรับความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐเป็นหลัก

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การกำหนดเลือกตั้ง วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ไม่มีปัญหาใดๆ กับพรรคที่ได้เตรียมความพร้อมมาระยะหนึ่งแล้ว

โดยพรรคจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และคณะกรรมการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งส..ในวันที่ 11 พฤศจิกายน เพื่อขับเคลื่อนพรรคเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มสูบ

แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า กำหนดการเลือกตั้งส..ใน วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกใช่หรือไม่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ระบุ

ด้านพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นโรดแม็ปเลือกตั้งที่กกต.วางไว้ อย่างเร็วคือ 24 กุมภาพันธ์ 2562 อย่างช้าสุด 9 พฤษภาคม 2562

แต่มาตรา 44 ของคสช.ยังอยู่ หลักประกันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด จึงยังไม่ชัด

รวมถึงอาจมีการใช้พรรคการเมืองเป็นเครื่องมือในการเลื่อนเลือกตั้งออกไป โดยให้บางพรรคแสดงออกว่า ดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในคำสั่งคสช. 13/2561 ไม่ทัน เช่น การหาสมาชิกพรรคเพื่อทำไพรมารีโหวต เป็นต้น

ทั้งที่ปัญหาไม่ได้เกิดจากพรรคการเมือง แต่เกิดจาก คำสั่งคสช.ตามมาตรา 44

ทั้งประชาชน พรรคการเมืองและ กกต. ต่างก็พร้อมจะเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 การเลือกตั้งไม่ได้นำไปสู่ความขัดแย้ง การเลื่อนเลือกตั้งต่างหากที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งนายปิยบุตรกล่าว

สําหรับพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนจะ ไม่ยินดียินร้ายกับปฏิทินเลือกตั้งครั้งนี้เท่าใดนัก

ส่วนหนึ่งเพราะไม่ว่ารัฐบาลคสช.จะพยายามยื้ออำนาจอย่างไร สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องจบลงที่การเลือกตั้งอยู่ดี เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย มีความเห็นไปในทางเดียว กับพรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าถึงจะมีการแถลงไทม์ไลน์ ปักหมุดเลือกตั้งไว้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็จริง แต่เมื่อดูสถานการณ์

ไม่มั่นใจว่าจะมีข้ออ้างเลื่อนออกไปอีกหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องความไม่พร้อมของพรรคการเมืองตั้งใหม่ ที่อาจทำตามเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดในคำสั่งคสช.ไม่ทัน เช่น การตั้งตัวแทนประจำจังหวัดที่จะส่งผู้สมัคร

พรรคเพื่อไทยยังตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงเคยให้สัมภาษณ์ว่า ทันทีที่พ...ว่าด้วยการเลือกตั้งส..มีผลใช้บังคับ วันที่ 11 ธันวาคม จะปลดล็อกให้ทันที

แต่เมื่อดูไทม์ไลน์ตามที่นายวิษณุ เครืองาม แถลง กลับเป็นว่าจะปลดล็อกต่อเมื่อมีพ...กำหนดให้มีการเลือกตั้งแล้ว หากเป็นตามนี้คาดว่าจะมีพ...ได้ราวต้นเดือนมกราคม 2562 แล้วจึงจะปลดล็อก

นั่นหมายความว่า ถึงแม้จะมีพ...เลือกตั้งแต่พรรคการเมืองก็ยังทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่ปลดล็อก เป็นปัญหาทำนองเดียวกับกรณีพ...พรรคการเมืองที่ประกาศใช้แล้วแต่ก็เป็นหมัน เพราะติดล็อกคำสั่งคสช.

ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคอนาคตใหม่ก่อนหน้านี้ ก็คือ ให้รัฐบาล คสช.ปลดล็อกทางการเมืองในทันที ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี

เพราะการแถลงปากเปล่าเพียงอย่างเดียวว่า จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ไม่อาจสร้างความเชื่อมั่นใดๆ ได้ว่าจะเป็นไปตามนั้นจริง

มีแต่การลงมือทำด้วยการปลดล็อก ให้พรรค การเมืองทำกิจกรรมและหาเสียงได้อย่างเต็มรูปแบบเท่านั้น ถึงจะสร้างบรรยากาศความเชื่อมั่นต่อการเลือกตั้งได้อย่างแท้จริง

เว้นเสียแต่จะเป็นไปตามข้อครหาว่ารัฐบาลคสช. ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย หรืออาจจะแค่ 50/50 เท่านั้น ว่ายุทธศาสตร์การรัฐประหารที่วางไว้ใน 3 เรื่อง สำคัญ คือ

ต้องไม่เสียของต้องต่อท่ออำนาจและต้องสกัดไม่ให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล จะบรรลุผลสุกงอม พอจะปล่อยให้มีการเลือกตั้งได้หรือไม่

เนื่องจากบทเรียนการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม 2550 และในเดือนกรกฎาคม 2554 ยังคงเป็นเงาตามหลอกหลอน ชนิดที่เห็นแค่รูปภาพในปฏิทินสีแดง

ก็ต้องหวาดหวั่นขวัญผวา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน