ยิ่ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยืนหยัดในปฏิบัติการ”เดินคารวะแผ่นดิน” มากเพียงใด ยิ่งจะเป็นผลดีต่อพรรคตระกูล”เพื่อ”และแนวร่วมมากเพียงนั้น
เพราะภายในโครงสร้างแห่งปฏิบัติการ”เดินคารวะแผ่นดิน”คือ การฟื้น “อดีต”ให้ย้อนกลับมามีชีวิตชีวา
ขั้นต้นที่สุด คือ การเรียก”ตัวละคร”ให้ “เผยแสดง”
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ยังประทับใจในนามของ”มวลมหาประชาชน” ไม่ว่าจะเป็นคนที่ได้รับผลสะเทือนจากการถูก “ชัตดาวน์”แช่ แข็งโดยเฉพาะสกัดขัดขวาง”การเลือกตั้ง”
และที่ร้อนแรงและสร้าง”ปฏิกิริยา”มากที่สุด คือ ความพยายามในการคืน”นกหวีด”
ยิ่ง”เดินคารวะ” ภาพแห่งความหลังยิ่ง”ปรากฏ”
ปมเงื่อนอันละเอียดและมากด้วยความอ่อนไหวเป็นอย่างสูงย่อม มาจากผลลัพธ์ของการเคลื่อนไหวซึ่งลงเอยด้วยการรัฐประหาร และการได้มาซึ่งรัฐบาล”คสช.”
จากเดือนพฤษภาคม 2557 มายังเดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นคำตอบอย่างดีที่สุด
ว่า ประสบผลสำเร็จ หรือว่า ล้มเหลว
เงินที่มีอยู่ในกระเป๋านั่นแหละคือความเป็นจริง รอยยิ้มและความสุขสมนั่นแหละคือความเป็นจริง
ที่สำคัญคือ มี”การปฏิรูป”ก่อน”เลือกตั้ง”จริงหรือไม่
ยิ่ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปฏิบัติการ”เดินคารวะแผ่นดิน” กว้างขวางใหญ่โตเพียงใด ภาพแห่งอดีต ภาพแห่งความหลังก่อนและหลังรัฐประหารจะยิ่งปรากฏ ณ เบื้องหน้า
แม้เป้าหมายจะต้องการหาเสียงสร้างคะแนนนิยมให้กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่ก็ไม่แน่ว่าคะแนนอาจกลายเป็นของพรรคตระกูล”เพื่อ”และพันธมิตรในแนวร่วมก็เป็นได้
และที่สุดแม้กระทั่ง”พลังประชารัฐ”ก็กระเทือนไปด้วย
ยิ่งใกล้วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 มากเท่าใด ความเชื่อที่ว่าถึงอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็จะได้รับเลือกมาเป็นอันดับ 1
ไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่พรรครวมพลังประชาชาติไทย
ปฏิบัติการ”เดินคารวะแผ่นดิน”วางเป้าหมายเพื่อคะแนนเสียง แต่ก็เริ่มไม่แน่ว่าจะตักตวงคะแนนได้อย่างเป็นจริงตามเป้าหมายหรือไม่
หรือว่าคะแนนจะเป็นของ”เพื่อไทย”และ”อนาคตใหม่”