FootNote:กังวลห่วงใยการเมือง จากพรรคตระกูล‘พลัง’

หากเป็นไปตามความเคยชินต่อ “ภาพลักษณ์” ทางการเมืองแบบเก่า การไหลออกของนักการเมืองอย่าง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช จากพรรคเพื่อไทยไปยังพรรคไทยรักษาชาติ

คือความขัดแย้ง ความแตกแยก และคือความสูญเสียอย่างมีนัยสำคัญ

ยิ่งเมื่อมีความแจ่มชัดว่า ไม่เพียงแต่จะมีคนอย่าง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เท่านั้น หากแต่ยังมีอดีตรัฐมนตรีอย่าง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และ นายสุธรรม แสงประทุม ตามไปด้วย

แต่หากฟังเสียงจาก นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และ นายสุธรรม แสงประทุม นี่มิได้เป็นความขัดแย้ง แตกแยก หากเป็นเรื่องของความรัก ความเข้าใจ

เข้าใจต่อสถานการณ์ เข้าใจต่อ”ยุทธวิธี”ทางการเมือง

มีเสียงสำทับดังแว่วมาจากภายในพรรคตระกูล”พลัง”บางพรรคใน เชิงเรียกร้องให้กกต.สนใจต่อสายสัมพันธ์ระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคไทยรักษาชาติอย่างเป็นพิเศษ

ว่าเป็นรูปแบบของการฮั้วและการครอบงำพรรคระหว่าง 2 พรรคการเมืองหรือไม่

เป้าหมายก็คือ ต้องการให้นำไปสู่”การยุบพรรค”

เหมือนกับข้อเสนออันมาจากภายในพรรคตระกูล”พลัง” บางพรรคเช่นนี้จะสะท้อนถึงหลักนิติธรรมอันเคร่งครัดและต้องการรักษาความสะอาดบริสุทธิ์ของพรรคการเมือง

คำถามก็คือ เป็นพรรคเพื่อไทยครอบงำพรรคไทยรักษาชาติ หรือว่าเป็นพรรคไทยรักษาชาติครอบงำพรรคเพื่อไทย

เพราะการขับเคลื่อนเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง

เพราะการขยับของอดีตส.ส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปอยู่พรรคไทยรักษาชาติก็เป็นความสมัครใจ และที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ก็คือเป็นการอำลาจากกันด้วยสันถวมิตรสนิทสนม

เปี่ยมด้วยความรัก ห่วงหาอาทรต่อกันและกัน

ปัญหามิได้อยู่ที่ความวิตกจากภายในพรรคตระกูล”พลัง”บางพรรคเท่านั้น หากเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติที่จะต้องบริหารจัดการ

ทำอย่างไรจึงจะสามารถหาสมาชิกได้อย่างอบอุ่น ทำอย่างไรจึงจะสามารถหาตัวผู้สมัคร ส.ส.ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทรงประสิทธิผล

และที่สำคัญก็คือ ทำอย่างไร”ประชาชน”จึงจะให้ความวางใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน