เริ่มมีความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับสำหรับปฏิบัติการ“เดินคารวะแผ่นดิน”ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นในกทม. ไม่ว่าจะเป็นการขยายผลไปยังภาคกลาง และที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในภาคใต้

“คำตอบ” ก็เริ่มส่งเสียง “สะท้อน” กลับมา

ความแจ่มชัดประการหนึ่งก็คือ การเดินครั้งใหม่ไม่สามารถพลิกฟื้นและคืนบรรยากาศในแบบ “มวลมหาประชาชน”ให้คืนมาได้

ยิ่งตอกย้ำบรรดา “โจทก์”เก่าก็จะปรากฏ ประสานกันไปกับปฏิกิริยาอันมาจากบรรดาอดีต “มวลมหาประชาชน”

รูปธรรมก็คือ ปฏิบัติการ “คืนนกหวีด”

ยิ่งกว่านั้น ความแจ่มชัดอีกประการหนึ่งซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็ คือ ยิ่งปฏิบัติการ “เดินคารวะแผ่นดิน” ยิ่งทำให้รู้ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยเป็นของใคร

เป็นของ “ประชาชน” ตามคำประกาศอย่างนั้นหรือ

หากดูจากความเป็นจริงที่ว่าใครคือตัวชูโรง ใครคือพระเอก ก็จะได้คำตอบ

ไม่ใช่ ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค

ตรงกันข้าม คนที่เดินนำโดยตลอด คนที่เรียกแขกอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ไม่ใช่ ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค

หากแต่เป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ยิ่งเห็นภาพ ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล เดินปาดเหงื่อตามหลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้อยๆ ยิ่งทำให้รู้ว่าใครเป็นหมู่ ใครเป็นจ่าในทางการเมือง

แทนที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะได้แต้ม แทนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะได้แต้ม

ตรงกันข้าม กลับอาจจะเสียแต้ม คะแนนหดมากกว่า

พลันที่พรรคอนาคตใหม่โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เปิดแคมเปญ “กรุงเทพฯขยับ”โดยเริ่มต้นที่บางรัก เยาวราช ภาพเปรียบเทียบก็ตามมาโดยอัตโนมัติ

มีความแตกต่างกันอย่างแน่นอนระหว่างบรรยากาศ “กรุงเทพฯขยับ” กับ “เดินคารวะแผ่นดิน”

เป็นความแตกต่างระหว่าง “อดีต”กับ “อนาคต”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน