FootNote : การแยก แตกตัว ทางยุทธวิธี เพื่อไทย มายัง ไทยรักษาชาติ

หากมองตั้งแต่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แยกแตกตัวไปจากตั้ง พรรคประชาชาติ กระทั่ง นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ หลั่งน้ำตาเข้าพรรคพลังประชารัฐ

จะมองเห็นการขยับขับเคลื่อนภายใน “พรรคเพื่อไทย”ได้ในหลายกระบวนท่า

ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข

ไม่ว่าจะเป็นกรณีของกลุ่มอดีตส.ส.กำแพงเพชรที่นำโดย พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์

รวมถึง พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ

ที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร สรุปว่า บ้างไปเพราะอามิส บ้างไปเพราะถูกบีบกดด้วยคดีความ

แต่ด้านหลักเป็นเพราะการแยกแตกตัวในทาง “ยุทธวิธี”

กรณีในแบบ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข หรือแม้กระทั่ง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นั้นมีความแจ่มชัดในตัวเองอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องอธิบาย

แต่กรณีในแบบของ นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ หรือแม้กระทั่งกลุ่มอดีตส.ส.กำแพงเพชร น่าเห็นใจ

ขณะเดียวกัน กรณีในแบบ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และล่าสุดคือ พรรคไทยรักษาชาติ อันถือว่าเป็นการแยกแตกตัวในเชิง “ยุทธวิธี” น่าศึกษา

น่าศึกษาเพราะเป็นการแยกแตกตัวอย่างเป็นฝ่ายกระทำและมีเจตนาให้รู้ว่าตั้งใจกระทำ

เห็นได้จากไม่เพียงแต่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หากแต่ยังมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง

ไม่เพียงแต่มี ร.ท.ปรีชา พงษ์พานิช หากแต่ยังมี นายจาตุรนต์ ฉายแสง

ไม่เพียงจะมี นายยงยุทธ ติยะไพรัช หากยังมี นายจตุพร พรหมพันธุ์

และ นายพานทองแท้ ชินวัตร ก็สมัครเป็นสมาชิกตลอดชีพของพรรคเพื่อไทย

เด่นชัดอย่างยิ่งว่าการแยกแตกตัวจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ

เป็นการแยกแตกตัวในทางรูปแบบ แต่เนื้อหายังเป็นอย่างเดียวกัน

เป็นเนื้อหาที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับ “คสช.” และพรรคตระกูลพลังอย่างมั่นคง ไม่แปรเปลี่ยน

เป็นการช่วงชิงความได้เปรียบจากกติกา “รัฐธรรมนูญ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน