เหตุผลอะไรทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงเน้นอย่างเป็นพิเศษในที่ประชุมสภากลาโหมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ให้มีการตรวจสอบข้อมูลผ่านสังคมออนไลน์
โดยพุ่งเป้าเข้าสู่บรรยากาศในห้วงแห่งการปลดล็อกเพื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ดังแถลงจากโฆษกกระทรวงกลาโหม
“ติดตาม ตรวจสอบการให้ข้อมูลทั้งข้อความและภาพที่มีการ บิดเบือน เชื่อมโยงเกิดความเสียหายหรือสร้างความเข้าใจผิดในสังคม”
เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณ “เข้ม” จากที่ประชุมสภากลาโหมไปยังภาคส่วนต่างๆก่อนการเลือกตั้ง
เพราะมีความอ่อนไหวในพื้นที่”ออนไลน์”
ปมเงื่อนที่ควรให้ความสนใจก็คือ ในประเด็นเรื่อง”นาฬิกา”แม้จะผ่านมา 1 ปีแล้ว แต่บรรยากาศแห่งการล้อเลียนก็ยังติดตรึงอยู่กับ ภาพลักษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แนบแน่น
อาจเป็นเพราะยังไม่มีความคืบหน้าใดๆจากการตรวจสอบโดย ป.ป.ช.
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า เรื่อง”นาฬิกา”มาจาก”ออนไลน์”
ยิ่งเมื่อบางเวบเพจมีการโพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับนาฬิหาที่ นายทักษิณ ชินวัตร ซื้อมามาประดับวงแขนเครื่องแล้ว เครื่องเล่า
ยิ่งสร้างความบาดตา บาดใจให้กับคสช.และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
โดยประสบการณ์และความจัดเจนทางการเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงรู้เป็นอย่างดีว่าพื้นที่”ออนไลน์”จะเป็นพื้นที่สำคัญในการสัประยุทธ์อันแหลมคมในห้วงแห่งการเลือกตั้ง
จึงต้องกำชับผ่าน”สภากลาโหม”ไปยังหน่วยงานทางด้านความมั่นคง
ยิ่งพรรคพลังประชารัฐเปิดปฏิบัติการ”ดูด”ด้วยความเข้มข้น คึกคัก มากเพียงใด เป้าหมายใหญ่อาจมิได้อยู่ที่ “4 ยอดกุมาร” อันเป็นมือไม้ในทางการเมือง
หากแต่ยิ่งทำให้ “คสช.” ต้องตกเป็นเป้าตามไปด้วย
ในการหาเสียงตามปกติอาจไม่รุนแรงเท่าใด แต่ในพื้นที่ของ ออนไลน์ น่าจะคึกคักและเข้มข้น
ทั้ง”ใน”และจาก”นอก”ประเทศ
