แม้สภาวะอารมณ์ผันผวน ปรวนแปรจะเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่งสำหรับบุคคลในวัยแบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

แต่กรณี”ซังกะบ๊วย”อันหลุดจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็สมควรมีการทำความเข้าใจ

มิใช่จากฐานแห่ง”ทหาร”

เพราะกล่าวสำหรับคนในแวดวงชายชาติทหารการหลุดคำไม่สุภาพถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการสนทนาระ หว่างชายต่อชาย

แต่ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด คือรากฐานความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ในฐานะ “นักการเมือง”

นักการเมืองซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น “นายกรัฐมนตรี”

หากเริ่มต้นจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โอภาปราศรัยก็สัมผัสได้ถึงความสบายใจ โดยเฉพาะเมื่อระบุถึงท่าทีของสื่อชาวต่างประเทศที่ประสบในเยอรมนี

นั่นก็คือ “เขาก็รับผมได้ในแบบบ้าๆบอๆของผม”

แต่แล้วเมื่อเข้าสู่ประเด็นเกี่ยวกับประกาศกกต.ล่าสุดในเรื่อง การแบ่งเขตเลือกตั้งและปฏิกิริยาอันตามมา

ตรงนี้ “อารมณ์” ก็เริ่มถึงจุดที่เรียกได้ว่า “หลุด”

“แม่งจะตายห่ากันหมดหรืออย่างไร ก็ไม่รู้กัน ไอ้เรื่องซังกะบ๊วยพวกนี้”

เหมือนกับต้นตอความหงุดหงิดจะมาจาก”สื่อ”

นั่นก็คือ ประสบคำถามอย่างเดียวกันจากสื่อ”ต่างประเทศ”ยังไม่พอ ยังมาได้ยินคำถามจากสื่อ”ในประเทศ”เสริมเติมเข้ามาอีก

กระนั้น ประเด็นเรื่อง “สื่อ” ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่หากว่าสิ่งที่สื่อนำมาสะท้อนออกไม่มีรากฐานมาจาก”ปฏิกิริยา”ของหลายพรรคการเมือง

โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ไทยรักษาชาติ

กล่าวไปแล้วคำว่า “ห่า” ก็ดี คำว่า “ซังกะบ๊วย”ไม่น่าจะหมายถึงสื่ออย่างแท้จริง

หากเพียงแต่ “สื่อ”อยู่ในสถานะเป็นเหมือน”สะพาน”

เป็นความหงุดหงิดต่อ “นักการเมือง” และเน้นอย่างเป็นการจำเพาะไปยังประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ไทยรักษาชาติ เป็นหลัก

เป็นความหงุดหงิดในลักษณะอันดำรงอยู่ในฐานะ”ตัวแทน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน