ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นของโหรระดับฤาษีเกวาลันแห่งเทือกเขาหิมาลัย ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นของปัญญาชนสาธารณะผู้ชอบ การสวมใส่เสื้อกั๊ก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องได้เป็น”นายกรัฐมนตรี”อย่างแน่นอน
สื่อระดับ”ยักษ์”ก็ให้ความเชื่อมั่นเช่นนั้น
แม้กระทั่งพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มประตูอย่าง พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ และรวมถึงพรรคอนาคตใหม่ โดยลึกแล้วก็เชื่อ
แต่คำถามที่แม้กระทั่งโหรระดับฤาษีเกวาลันแห่งเทือกเขาหิมาลัยไม่สามารถตอบได้ด้วยความมั่นใจคือ
ได้เป็นแล้วจะ”อยู่”อย่างไร
ยิ่งหากรับฟังเสวนา”ฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญ 2560″ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จากนักวิชาการและตัวแทนพรรคการเมือง
ยิ่งประจักษ์ในความวุ่นวายภายหลัง”การเลือกตั้ง”
ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะชื่ออื่นก็ตาม
ปัญหาเนื่องแต่ “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560″
ประเด็นสำคัญเป็นอย่างมากคือ มาตรา 279 ที่ยังรักษาอำ นาจมาตรา 44 อันเป็นมรดกของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 เอาไว้อย่างเหนียวแน่น
เท่ากับ”อนุรักษ์” อำนาจจากกระบวนการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ให้คงอยู่ครบถ้วน
ก่อนและภายหลัง”การเลือกตั้ง”
ความหมายก็คือ ทำให้ศักดิ์ศรีและสถานภาพแห่งความเป็น “รัฐธรรมนูญ”หมดสิ้นไปโดยพื้นฐาน
เพราะ”มาตรา 44″เป็นอำนาจเหนือ”รัฐธรรมนูญ”
เหมือนกับทุกอย่างจะเป็นหลักประกันให้กับเจตจำนงในการสืบทอดอำนาจของคสช. เป็นหลักประกันมิให้รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ต้องเสียของ
เหมือนกับรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
แต่”หลักประกัน”อันกำหนดเอาไว้ในบทเฉพาะกาลของ”รัฐธรรมนูญ”นี้แหละจะกลายเป็น “กับดัก”
แม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็หนีไม่พ้น
