บทบรรณาธิการ : บัตรเลือกตั้ง

บทบรรณาธิการ : คําปรารภของหัวหน้าคสช.ในการประชุมแม่น้ำ 5 สายกับตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ระบุว่าเป็นห่วงจะมีบัตรเสียจำนวนมาก เพราะไม่มีชื่อและเครื่องหมายพรรคการเมือง ทำให้มีกระแสคัดค้านอย่างกว้างขวาง

ทำให้เพิ่งรู้ว่าบัตรเลือกตั้งที่อาจจะใช้ในครั้งนี้ นอกจากจะมีใบเดียวตามแนวคิดแบบการจัดสรรปันส่วนผสม อ้างทุกคะแนนเสียงมีความหมายแล้ว ยังมีความแปลกประหลาดซุกซ่อนไว้ด้วย

แม้คณะกรรมการ การเลือกตั้งจะอ้างว่ายังไม่มีข้อสรุปว่าจะใช้แบบใด ระหว่างแบบมีทั้งชื่อพรรคและโลโก้ กับแบบโหลที่มีแต่ชื่อและหมายเลข ผู้สมัคร แต่ก็สร้างความสับสนไปทั่ว

น่าสงสัยว่ากกต.ยังมีความเป็นองค์กรอิสระอยู่หรือไม่

ที่ผ่านมา การเลือกตั้งทั่วไปทั้งในอดีตถึง ครั้งล่าสุด ไม่เคยมีครั้งใดที่ไม่ระบุชื่อพรรคที่ผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งสังกัด ต่อมาพัฒนาเป็นแบบบัตร 2 ใบ สำหรับเลือกพรรคการเมือง และ ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีหมายเลขเดียวกันกับเบอร์พรรค ซึ่งมีความสะดวกและง่ายดาย

แต่หลังจากรัฐประหาร พ.ศ.2549 มีการแบ่งเขตการเลือกตั้งที่ย้อนกลับไปสู่ความยุ่งยากมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองที่สนับสนุนผู้มีอำนาจ

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่แรกว่ามีความพยายามทุกอย่างตั้งแต่ต้น เริ่มที่การออกแบบรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ การแบ่งเขตเลือกตั้ง ตลอดจนการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ก่อนการเลือกตั้ง

ล้วนแต่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจให้รัฐบาลปัจจุบัน

นักกฎหมาย ตลอดจนนักการเมือง และพรรคการเมืองต่างๆ ยกเว้นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาล ต่างไม่เห็นด้วยกับบัตรเลือกตั้งที่ตัดชื่อพรรคและเครื่องหมายพรรคออกไป

เนื่องจากทุกคะแนนเสียงจะนำไปคิดในส่วนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออีก 150 คนด้วย หากเป็นเลือกตัวบุคคลล้วนๆ และไม่ยึดโยงกับพรรคการเมือง ก็อาจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง จะพิจารณาสรุปรูปแบบของบัตรเลือกตั้งว่าจะใช้แบบไหน ถ้าหากยังจะดำเนินการโดยพลการโดยไม่ยอมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์และความคิดเห็น

การเลือกตั้งครั้งนี้แทนที่จะเริ่มต้นด้วยความราบรื่น ก็จะเป็นอย่างอื่นแทน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน