ไขเคล็ดลับ ความสุขแท้จริง ที่ ‘เงิน’ สามารถซื้อได้

ผมคิดว่าคนหลายคนบนโลกนี้เชื่อว่า การมี ‘เงิน’ มากมาย จะทำให้มีความสุข แล้วมั่นใจหรอครับว่า จะเป็นเช่นนั้นจริงๆ?

ความสุขที่แท้จริงมาจากเงิน ใช่หรือไม่? ถ้าใช่แล้วทำไมเราจึงเห็นข่าวลูกเศรษฐีฆ่าตัวตาย หรือคนรวยยังจมอยู่กับความทุกข์ ถ้าเช่นนั้นเราต้องใช้เงินอย่างไรให้พบกับความสุขที่แท้จริง วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง “ความลับของความสุข” กันครับ

บุคคลที่รวยที่สุดในโลกตอนนี้คือ เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของอาณาจักรอเมซอน ด้วยทรัพย์สิน 1.051 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.47 ล้านล้านบาท เรียกว่ารวยล้นฟ้าของจริง

แต่คนที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนี้ เขาได้รับการขนานนามว่า เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน นั่นคือ “จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์” นักธุรกิจชาวอเมริกันเจ้าของกิจการน้ำมันสแตนดาร์ดออยล์ ซึ่งนิตยสารฟอร์บส์ได้ตีมูลค่าทรัพย์สิน พร้อมคำนวณอัตราเงินเฟ้อ สรุปว่าเขามีทรัพย์สินคิดเป็น 1.5 % ของมูลค่าเศรษฐกิจทั้งหมดของสหรัฐฯ หรือกว่า 10 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว

ตั้งแต่เด็กมาร็อกเกอะเฟลเลอร์ชื่นชอบในการทำธุรกิจและการหาเงิน เขาเริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยพนักงานบัญชี ก่อนหันไปก่อตั้งบริษัทกลั่นน้ำมัน ซึ่งสร้างรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำในแต่ละปี
หากเป็นเราที่ร่ำรวยเหมือนร็อกเกอะเฟลเลอร์ ก็คงจะจ้างหมอ หรือช่างตัดผมประจำตัว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวเองใช่ไหม แต่ร็อกเกอะเฟลเลอร์จะเลือกตัดผมในร้านเก่าๆ ที่มีราคาถูก และเขาก็ไม่เคยให้ทิปเป็นรางวัลพิเศษแม้แต่เหรียญเดียว

และแล้วจุดเปลี่ยนในชีวิตก็มาถึง ร่างกายเขาอ่อนแอและเจ็บป่วย เห็นความผิดปกติของตนเอง ผม ขนคิ้ว และขนตาร่วงจนแทบไม่มีเหลือ นอกจากโรคประหลาดนี้ก็ยังมีอาการของโรคซึมเศร้าร่วมด้วย คุณหมอบอกกับร็อกเกอะเฟลเลอร์ว่า เขาจะมีชีวตอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี

ในตอนนั้นเขาทำได้เพียงนอนอยู่เฉยๆ จมดิ่งสู่ความมืดมิดที่สุด ในแต่ละวันจะรับประทานได้เพียงนมและแครกเกอร์เพื่อประทังชีวิตเท่านั้น ตอนนั้นเองเขาคิดว่า ทำไมชีวิตช่างน่าสมเพชเช่นนี้ เงินมากมายมหาศาลที่หามาได้ ยังไม่มีโอกาสได้ใช้มันเลย

ต่อมาเมื่อเขาไปโรงพยาบาลเพื่อพบคุณหมอ เขาได้ยินเสียงตะโกนโวยวายของผู้หญิงคนหนึ่ง ร้องขอให้คุณหมอรักษาลูกสาวที่กำลังจะตาย แต่ตอนนั้นทางโรงพยาบาลปฏิเสธ เนื่องจากเธอไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา ร็อกเกอะเฟลเลอร์ที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่ตอนนั้นได้ย้อนคิดถึงตัวเอง แม้เขาจะมีเงินมากมายแค่ไหน แต่เงินนั้นไม่สามารถช่วยเขาจากความตายได้

แต่เด็กคนนั้นเพียงแค่มีเงินก็มีโอกาสรอดได้ ตอนนั้นเองเขาได้เห็นข้อความหนึ่งติดอยู่ที่ผนังของโรงพยาบาลเขียนว่า “การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ”

เขาจึงตัดสินใจจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แก่เด็กคนนั้น เมื่อเห็นเด็กคนนั้นมีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อไปเพราะการให้ของเขา เขาจึงได้ลอง “ให้” และค้นพบว่า “การให้” คือความสุขที่แท้จริง ร็อกเกอะเฟลเลอร์ไม่เคยรู้สึกมีความสุขขนาดนี้มาก่อน และไม่รู้สึกเสียดายเงินนั้นเลยด้วยซ้ำ

จากนักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ได้ผันตัวมาเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง โดยการก่อตั้งมูลนิธิร็อกเกอะเฟลเลอร์เพื่อช่วยเหลือผู้คนและบริจาคเพื่อการกุศล โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและการศึกษา จากที่คุณหมอเคยบอกเขาว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี แต่หลังจากที่เขาค้นพบความลับของความสุขที่แท้จริงจากการเป็นผู้ให้ ร็อกเกอะเฟลเลอร์ก็มีชีวิตยืนยาวจนถึงอายุ 97 ปี

นี่ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมากเลยนะครับ ดังนั้น “ความสุข” ที่คนเราเข้าใจว่าเกิดจากการ “ได้รับ” และแสวงหาด้วยการใช้เงินทำเพื่อตัวเองให้ได้อย่างที่ต้องการนั้น จึงไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง แต่ “ความสุขที่แท้จริงนั้นเกิดจากการให้” ต่างหากครับ


ดร.(กิตติมศักดิ์) ฮักเชิล คิม
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประจำประเทศไทย
[email protected]

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน