FootNote : บังอาจใช้พาสปอร์ตปลอม อาชญากรรมใหม่ “ยิ่งลักษณ์”
เหมือนกับการโหมกระพือเรื่องพาสปอร์ต“ปลอม” ในมือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็นอีก“ไม้เด็ด” ซึ่งฝ่ายไม่ชอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังเปิดปฏิบัติการตอบโต้
ตอบโต้การรุกคืบเข้าไปจัดตั้งบริษัทลงทุนขึ้นในตลาดทุนฮ่องกง
ตอบโต้การรุกคืบเข้าไปยังท่าเรือ“ซัวเถา”
ตอบโต้การเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานของบริษัทท่าเรือซัวเถา ประเทศจีน
แปร “โอกาส” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เป็น “วิกฤต”
กระนั้น ตลอดทั้งกระบวนการตอบโต้เพื่อเล่นงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งเท่ากับเป็นแผล
แผลอันเป็นช่องว่าง รอยโหว่ในเดือนสิงหาคม 2560
กล่าวในทางรูปคดีที่ดำรงอยู่ในแฟ้มของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังอยู่ในประเทศ
เพราะไม่ปรากฏหลักฐานว่าหายไปอย่างไร
เพราะตำรวจไม่สามารถตอบได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางออกจากประเทศไปปรากฏตัวที่นครดูไบ และกรุงลอนดอนได้อย่างไร
ทราบแต่ว่าหายไปในกลางดึกอย่างไร้ร่องรอย
ยิ่งเมื่อทางการกัมพูชายืนยันว่าพาสปอร์ตในมือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นของปลอม คำถามก็จะตามมาอีกมากมาย ว่าตกลง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางออกจากกัมพูชาหรือไม่
จากกัมพูชา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปแวะ ณ จุดใด
แล้วการที่อังกฤษอนุญาตให้พำนักมีความรัดกุมเพียงใด
แล้วการที่ฮ่องกงให้จดจัดตั้งบริษัทดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการและเข้าไปลงทุนร่วมกับทางการท้องถิ่นจีนที่ซัวเถากระทั่งได้เป็นประธานบริษัทขนส่งทางเรือ
ตกลง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้เอกสาร“ปลอม” หรือจริง
หากประเทศไทยมีความมั่นใจในอาชญากรรมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกอบนับแต่เดือนสิงหาคม 2560 กระทั่งเดือนมกราคม 2562
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการปลอมแปลง“เอกสาร”
ก็น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะต้องจัดการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างรวบรัดสบัดพลให้จงได้
++++++++
