FootNote : สามมิตร ถึง พลังประชารัฐ แต้มต่อ สถานะ ได้เปรียบ

กรณีคำสั่งห้ามจากอบจ.พะเยาห้ามพรรคเพื่อไทยใช้สนามกีฬาจังหวัดเป็นพื้นที่ปราศรัยเพียงวันเดียว พรรคพลังประชารัฐก็เปิดสัมนาผ่านศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดเชียงราย
นี่ไม่เพียงเป็น “อภิสิทธิ์” อันสำแดงความเหนือกว่าระหว่าง 2 พรรคการเมือง
หากที่สำคัญก็คือด้วย”มาตรฐาน” อันแตกต่างกัน
ขณะที่กรณีการห้ามใช้สนามกีฬาของพะเยามีคำชี้แจงจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นสถานที่ราชการไม่พึงใช้ในกิจกรรมทางการเมือง
คำถามอันตามมาก็คือ ศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดเชียงรายเป็นสถานที่ราชการหรือไม่
เป็นคำถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

คำถามนี้จะไม่สามารถเป็นปัญหาอย่างเด็ดขาด หากว่าก่อนกรณีมีคำสั่งห้ามที่พะเยา พรรคพลังประชารัฐ จะไม่ได้เปิดตัวอย่างครึกโครมที่สนามกีฬา 700 ปีที่เชียงใหม่
ไม่ว่าที่เชียงใหม่ ไม่ว่าที่พะเยา ไม่ว่าที่เชียงราย
เป็นกรณีเปรียบเทียบอย่างเด่นชัดถึงมาตรฐานที่ต่างกันระหว่างกรณีของพรรคพลังประชารัฐ กับ กรณีของพรรคเพื่อไทย
ยิ่งหากนึกหวนทวนไปยังอภิสิทธิ์อัน“กลุ่มสามมิตร”ได้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2491
เปิดโครงการ”สามมิตรสัญจร”แข่งกับ”ครม.สัญจร”
ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุ วรรณ ล้วนเปิด”ไฟเขียว”ว่าสามารถทำได้เพราะไม่ได้เป็นพรรคการเมือง
ทั้งๆที่ในเดือนพฤศจิกายน 2491 ทุกคนก็รู้ว่าเป็นการทำให้กับพรรคพลังประชารัฐทั้งสิ้น
นี่คืออภิสิทธิ์ นี่คือความได้เปรียบต่อพรรคการเมืองอื่น

เมื่อทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาปกป้อง “กลุ่มสามมิตร” ปกป้องพรรคพลังประชารัฐเช่นนี้
ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคไทยรักษาชาติ ไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่
ล้วนอยู่ในฐานะอันไทยโบราณเรียกว่า “น้ำท่วมปาก”
เป็นภาวะน้ำท่วมปากไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึง “วันเลือกตั้ง”

เกาะติดข่าวการเมืองข่าวเลือกตั้ง แค่กดเป็นเพื่อนกับไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน