คล้ายกับว่าการออกโรงโดยเริ่มจาก เลขาธิการคสช.ตามมาด้วยโฆษกคสช. ตามมาด้วยโฆษกกระทรวงกลาโหม จะพุ่งเป้าไปยัง “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” เป็นหลัก
ไม่ใช่หรอก
หากดูอย่างผิวเผิน ไม่ว่าสีหน้าท่าทาง ประสานกับการเลือกใช้คำที่ระบุว่าต้องการสร้างความวุ่นวาย เหมือนกับเป้าหมายจะอยู่ที่ “จ่านิว” หรือ “พี่โบว์” และ “น้องลูกเกด”
ยิ่งการเล่นเอาเถิดเรื่องระดับเดซิเบลเครื่องเสียงบริเวณแยกราชประสงค์ในตอนค่ำของวันที่ 13 มกราคม อาจทำให้เข้าใจเช่นนั้น
ทั้งๆที่ความจริงเป้าหมายอยู่ที่การหาเสียงของนักการเมือง
มองในเชิง “คุณภาพ” การจำหลักหนักแน่นที่อยากเห็นการเลือกตั้งอันดำเนินไปในลักษณะ Start Up ตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2561 อาจดูน่ากลัว
แต่ก็น้อยเป็นอย่างยิ่งในเชิง “ปริมาณ”
ภาพที่เห็นในการเดินสายเพื่อพบปะประชาชนเชิญชวนให้มา สมัครเป็นสมาชิกของแต่ละพรรคการเมืองต่างหากที่ชวนให้ขนลุก ขนพองสยองเกล้ามากกว่า
เพราะไม่ว่าในเชิง “ปริมาณ “ไม่ว่าในเชิง “คุณภาพ”ก็ทะลุทะลวงถึงยอดอกของ “คสช.”อย่างไม่บันยะบันยัง
แม้กระทั่ง “เดินสายคารวะแผ่นดิน” ก็ยัง “หวาดเสียว”
แล้วกระบวนการ “มิได้มาปลุกปั่น แต่ยุยง” ของหลายพรรคการเมืองไม่ยอกแสยงเข้าไปในหัวใจของ “คสช.” ล้ำลึก กว้างขวาง มากยิ่งกว่าหรอกหรือ
คอยดูไปเถิดเมื่อเลขาธิการคสช.ออกโรง การประสานจากโฆษกคสช. จากโฆษกกระทรวงกลาโหมก็จะยิ่งตามติดมาเหมือน กับลูกระนาด
การจับตาเวทีปราศรัย “หาเสียง” จะยิ่งเข้มข้น
จุดที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งของการเคลื่อนไหว ไม่ว่าของกลุ่มอยาก เลือกตั้ง ไม่ว่าของพรรคการเมือง มิได้อยู่ที่บนเวทีปราศรัยและใน การชุมนุมของชาวบ้านอย่างเดียว
หากที่แหลมคมเป็นอย่างมาก คือ การขยายผลผ่านโซเชียล มีเดีย โดยเฉพาะช่องทางของ “ยูทูป”
นั่นคือการแพร่กระจายของ “ข่าวสาร” อย่างคึกคัก กว้างขวาง
