แม้ว่าการที่ “ชุดปฏิบัติการพลเรือน” ของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ไปเยี่ยมยาม นายธวัชชัย สุทธิบงกช เมื่อวันที่ 17 มกราคม จะเป็นเรื่องปกติ
ปกติตามวงรอบของ “ปฏิบัติการ”
เพราะว่านอกจากบ้านของ นายธวัชชัย สุทธิบงกช แล้วยังไปยังอีกหลายบ้านในเขตพระโขนงและบางนา
ไม่ว่าจะเป็นชุมชนหมู่บ้านทับแก้ว ไม่ว่าจะเป็นชุมชนหมู่บ้านยศศักดิ์นิเวศ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนแย้มสรวล ไม่ว่าจะเป็นชุมชนหมู่บ้านสุขใจ
แต่ปฏิบัติการของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล. รส.) ก็กลายเป็นเรื่องไม่ปกติขึ้นมา
เพราะว่าอยู่ในห้วงของ “การเลือกตั้ง”
การเลือกตั้งนั้นเองทำให้การไปเยี่ยมยามบ้านของ นายธวัชชัย สุทธิบงกช กลายเป็นเรื่องประเภท AB-NORMAL ขึ้นมาโดยพลัน
เพราะ 1 ตำแหน่งหนึ่งของ นายธวัชชัย สุทธิบงกช คือ รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย
หากเป็น”พลังประชารัฐ” ก็ไม่เป็น”ประเด็น”
เมื่อเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ หรือพรรคประชาชาติ ก็ย่อมได้รับความสนใจ
กระทั่ง นายวัฒนา เมืองสุข ต้องโพสต์ภาพและข้อความ
ขณะเดียวกัน อีกเพราะ 1 ก็คือ เป็นการไปเยี่ยมยามโดยเจ้าหน้าที่ทหารในเครื่องแบบในเดือนมกราคม เพราะในเดือนกุมภาพันธ์หรือในเดือนมีนาคมก็จะมี”การเลือกตั้ง”
ในเมื่อ”การเลือกตั้ง”เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ “กกต.” การปรากฏตัวของเจ้าหน้าที่ทหาร หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดา
นี่คือปัญหาอันเกี่ยวกับ “กาละ” และ “เทศะ”
อย่าได้แปลกใจหากจะมีการโวยบทบาทของ กอ.รมน.ในการเชิญตัวเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ารับการชี้แจงเรื่องการเลือกตั้ง
เพราะการเลือกตั้งมิได้เป็นงานโดยตรงของทหารหรือของกอ.รมน.
การห่างหายจากพื้นที่ของการ “เลือกตั้ง” จึงกลายเป็นเรื่องอันสมควรพิจารณาขึ้นมาโดยอัตโนมัติสำหรับทหารหรือกอ.รมน.