ไม่ว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กำลังพิสูจน์กรรมวิธีบริหารจัดการแบบใหม่ของพรรคเพื่อไทยในยุคใหม่

นั่นก็คือ การบริหารอย่างเป็น “ทีม”

1 สะท้อนให้เห็นการสรุปบทเรียนที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย พลังประชาชน กระทั่งมาถึงยุคเพื่อไทย

สะสมประสบการณ์ สะสมความจัดเจน

ขณะเดียวกัน 1 คำว่าเป็น”ทีม”ย่อมมิได้หมายความเพียง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างแน่นอน

หากหมายรวมถึง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รวมอยู่ด้วย

ทั้งหมดนี้ย่อมเป็น”พัฒนาการ”สำคัญของพรรคเพื่อไทย

บทบาทที่เห็นเด่นชัดในขณะนี้ก็คือ ทุกองคาพยพของทีมล้วนทำ เพื่อชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในสนามเลือกตั้ง

1 จะต้องสร้าง”เอกภาพ”ภายในให้เกิดความแข็งแกร่ง

1 จากเอกภาพภายในพรรคเพื่อไทยจะเป็นเครื่องมืออย่างสำ คัญในการสร้างพันธมิตรในแนวร่วมที่จะผนึก”พลังประชาธิปไตย” เพื่อสกัดการสืบทอดอำนาจของ”คสช.”ให้จงได้

เป้าหมาย 375 เสียงย่อมมิได้หมายความว่าเป็นพรรคเพื่อ ไทยเพียงพรรคเดียว

หากพรรคเพื่อไทยไม่เป็นเอกภาพ หากพรรคเพื่อไทยไม่แข็งแกร่งและมั่นคงอย่างเพียงพอก็ไม่สามารถสำแดงบทบาทการ เป็น “ทัพหลวง”ในการต่อกรกับ”คสช.”ได้อย่างทรงพลัง

นี่คือสิ่งที่ไม่เพียงแต่ พล.ต.อ.วิโรจน์ แสงสนิท นายภูมิธรรม เวชยชัย จะต้องตระหนัก หากที่สำคัญ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จักต้องสังวร

มิเช่นนั้นก็ยากที่จะได้ชัยชนะ มิเช่นนั้นก็ยากที่จะเป็น”แม่ เหล็ก”แท่งสำคัญในการรวมพลัง”ประชาธิปไตย”

คาดหมายได้เลยว่าปฏิบัติการด้านการข่าวหรือ IO ลำดับต่อไปคือ ปฏิบัติการ”เสี้ยม”เพื่อสะท้อนความขัดแย้ง แตกแยกภายในของพรรคเพื่อไทย

โดยเฉพาะระหว่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

นี่คือเป้าหมายหลัก เป้าหมายใหญ่ในทางการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน