ทั้งๆที่การสรุปบทเรียนการต้องกิน “น้ำบัวบก”ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นบทเรียนของพรรคภูมิใจไทยแท้ๆ เหตุใดจึงต้องให้

พ.อ.ดร.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค ออกมาชี้แจง

เพราะว่า 1 บทสรุปนี้มาจากคำถามที่พาดพิงถึงการดำรงอยู่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 4 รัฐมนตรีที่ไปมีตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ กระนั้นหรือ

หรือเพราะว่า 1 อุปมาฉันใดกับพรรคภูมิใจไทย อาจอุปมัยฉันนั้นไปยังพรรคพลังประชารัฐได้

การพูดของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จึงละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง

ละเอียดอ่อนกระทั่งกลายเป็นว่า การชี้แจงเท่ากับเป็นการตอกย้ำบทบาทและความสำคัญของอุปมาฉันใดอุปมัยฉันนั้น

ตกลงใครกันแน่ที่จะกิน “น้ำบัวบก”หลังการเลือกตั้ง

ความจริง บทเรียนอันพรรคภูมิใจไทยและนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 นั้นเป็นบทเรียนในลักษณะทั่วไปทางการเมือง

เหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มาเมื่อเดือนมกราคม 2544

ทั้งที่ประกาศยุบสภามาจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ แต่เมื่อมีการเลือกตั้งจริงๆพรรคประชาธิปัตย์ก็พ่ายแพ้ให้แก่น้องใหม่ อย่างพรรคไทยรักไทย

จากนั้นก็แพ้ซ้ำซาก แพ้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ไม่ว่าเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ไม่ว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554

แต่ความพ่ายแพ้ในเดือนกรกฎาคม 2554 เป็นความพ่ายแพ้ ที่นำความเจ็บปวดมาให้อย่างล้ำลึก

ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์

เพราะว่าผลของการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม 2554 นั้นเอง เป็นที่มาของคำขวัญในทางการเมืองที่ว่า

“รับเงินหมา กาเพื่อไทย”

คำเตือนที่ว่าระวังจะต้องกิน “น้ำบัวบก”จึงมิได้เป็นการเตือนตนเอง ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หากยังเป็นการเตือนไปยังหลายพรรคการเมือง

ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย

ล้วนอยู่ในข่ายที่อาจได้บทเรียนเดือนกรกฎาคม 2554 ทั้งสิ้น

บังเอิญว่ามี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมเข้าด้วยเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน