FootNote หมัดต่อหมัด ซัดกัน เต็มพลัง ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ
เหมือนกับความหงุดหงิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีรากฐานมาจากอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างน้อย 2 คน
คน 1 คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์
คน 1 คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย
“การเลือกตั้งปี 2554 ใครเป็นนายกฯ ลาออกหรือไม่ ก็ไม่ออก แล้วไปหาเสียงครม.สัญจรด้วย ส่วนการเลือกตั้งปี 2557 นายกฯอีกคนกับครม.ลาออกหรือไม่ ก็ไม่ออก”
แต่หากเจาะลึกลงไปภายใน “รายละเอียด”ยิบย่อยของ “ถ้อยคำ” ก็จะมองเห็นจุดหนักเบาได้เด่นชัดมากยิ่งขึ้นว่า วางอยู่กับใครมากกว่าระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2
เป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มากกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อาจเป็นเพราะในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้อยู่ในสนาม แม้จะมีพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ ยืนจังก้าอยู่ก็ตาม
ตรงกันข้าม ศึกหนักที่พรรคพลังประชารัฐจะต้องปะทะคือ พรรคประชาธิปัตย์
“ผมไม่ได้ท้าทาย แต่ไม่ออก”
การที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แพ้เลือกตั้ง ปี 2554 ในการแข่งขันกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำไมแพ้ เป็นรัฐบาลหรือเปล่า
แสดงว่าการเป็นรัฐบาลไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลมีผลงานหรือไม่ หากไม่มีประชาชนก็ไม่เลือกอยู่แล้ว”
เท่ากับเป็นคำอธิบายต่อคำตอบว่าเพราะอะไรพรรคประชาธิปัตย์จึงพ่ายแพ้ให้แก่พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
ทำไม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงแพ้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อย่าได้แปลกใจหากว่าจะได้รับ “ปฏิกิริยา” อย่างทันทีทันควันจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะเท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท้ามาจากทำเนียบรัฐบาล
ศึกในเดือนมีนาคม 2562 ของพรรคประชาธิปัตย์จึงพุ่งหมัดตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นี่คือ อานิสงส์ที่ “พรรคพลังประชารัฐ”จะได้รับเต็ม-เต็ม ทุกพื้นที่ ทุกเวที
