FootNote : จังหวะ เวลา ไทยรักษาชาติ กับ การเลือกตั้ง อีก 30 วัน
แล้ว นายจาตุรนต์ ฉายแสง กับ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ก็เริ่มนำพาบรรดาขุนพลแห่งพรรคไทยรักษาชาติ ลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากเงียบหายนับแต่สถานการณ์เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา
ใช้เวลา 12 วันในการขบคิดและตัดสินใจ
นั่นก็คือ การแสดงบทบาทในฐานะประธานคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์ของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นั่นก็คือ การแสดงบทบาท ในฐานะประธานหาเสียงของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ
กรณีที่กกต.แจ้งข้อกล่าวหาและเสนอยุบสภาให้เป็นเรื่องของ ศาลรัฐธรรมนูญ และเว้นที่จะวิพากษ์วิจารณ์
แต่การหาเสียงย่อมเป็นภาระธุระของพรรค
ก็ในเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ยอมรับสถานะของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าในระบบเขต ไม่ว่าในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักษาชาติ
จึงย่อมเป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่พรรคไทยรักษาชาติ จะต้องรับผิดชอบในการหาเสียง
นี่ย่อมเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งในทางการเมือง
มิได้เป็นเรื่องดีต่อบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคไทยรักษา ชาติประการเดียว หากประการที่สำคัญมากยิ่งกว่าก็คือ เมื่อการรณรงค์หาเสียงดำเนินต่อไป
นั่นหมายถึงข้อมูลและความเป็นจริงทางการเมืองจากด้านของพรรคไทยรักษาชาติก็ไม่หยุดนิ่ง
สอดรับกับคำประกาศของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อขับเคลื่อนพรรค จนถึงวันสุดท้าย
นั่นก็คือ มีคำวินิจฉัยจากคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าจะตัดสินต่อข้อหาอันมาจากกกต.อย่างไร ยุบหรือไม่ยุบ
พรรคไทยรักษาชาติถือเป็นพรรคอันมีความต่อเนื่องจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทย เพียงแต่แยกตัวออกมาต่างหาก
เป็นการแยกตัวออกมาอย่างเด็ดขาดจากพรรคเพื่อไทย
ระยะเวลาที่เสนอตัว ระยะเวลาที่เหลืออยู่จึงเป็นระยะเวลาอันทรงความหมายในการแสดงออก
อย่างน้อยก็ฝากรอยเท้าในทางความคิดเป็นที่ประจักษ์ชัด
