ยุบพรรคไม่พลิกผล

ใบตองแห้ง

ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 108 คน เขตเลือกตั้ง 176 คน สิ้นสถานะทันที ทั้งที่คนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับกรรมการบริหารพรรค 14 คน

ผู้กล้าประชาธิปไตย ผู้องอาจท้าทายเผด็จการทุกยุคสมัย อย่างจาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งควรจะได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ กลับหมดโอกาสเข้าสภา พร้อมผู้สมัครหน้าเก่าหน้าใหม่ ที่โดดเด่นหลากหลาย ที่มีประชาชนนิยม และพร้อมจะเลือก ไม่ว่าอย่างไร

แต่ท้ายที่สุด ต้องเสียสิทธิหมด ทั้งคนสมัครและคนอยากเลือก แม้ไม่ถูกตัดสิทธิ สมัยหน้าหาพรรคใหม่ได้ แต่ครั้งนี้ ที่ลงทุนลงแรงไปกลายเป็นสุญญากาศ โดยไม่รู้จะเรียกหาความเป็นธรรมจากไหน

แต่เอาเถอะ การเลือกตั้งครั้งใหม่น่าจะอีกไม่นาน (เว้นแต่เลือกตั้งแล้วเกิดวิกฤตจนไม่มีเลือกตั้งอีกนาน) สะสมกำลังใจ คะแนนเห็นใจที่ได้ไปล้นหลาม ยังพอพลิกโอกาสกลับมาผงาดอีกครั้ง

คำถามเฉพาะหน้าคือ ทษช. ถูกยุบส่งผลถึงขั้นพลิกคะแนนเลือกตั้งให้ฝั่งหนึ่งแพ้ฝั่งหนึ่งชนะหรือไม่ คำตอบง่ายๆ คือไม่ ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหญ่ “ไม่เอาตู่” เมื่อไม่มี ทษช. คนที่จะเลือกซึ่งชัดเจนว่าไม่เอาลุงอยู่แล้ว ก็จะหันไปเลือกพรรคแนวร่วม จุดยืนเดียวกัน อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย เพื่อชาติ ประชาชาติ สามัญชน ยังไงก็ไม่ข้ามไปเลือกพลังประชารัฐหรือประชาธิปัตย์แน่นอน

พวกที่ดีอกดีใจว่าเพื่อไทยส่งแค่ 250 เขต หมด ทษช.ก็ขาดทุน 100 เขต คืออนุรักษนิยมปัญญาอ่อน ไม่เข้าใจยุทธศาสตร์แตกแบงก์พัน เพื่อไทยส่งในเขตความหวังสูง ที่จริงควรส่ง 220 เขตเท่านั้น บนฐาน ส.ส.เดิม 204 เขต ถูกดูดบ้าง ถูกลดเขตบ้าง ตั้งเป้า ส.ส.เขตอย่างเดียว 180 บวกลบ ทษช.ส่งในเขตที่เคยเป็นรอง หรือแพ้แหงๆ โดยหวังแยกคะแนนปาร์ตี้ลิสต์มาย้อนศรระบบมีชัยบัตรใบเดียว

แน่นอน ทษช.ถูกยุบส่งผลกระทบยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พัน” บางเขตที่พอลุ้น ส.ส.เขต ก็กลายเป็นศูนย์ แม้คงมีลุ้นไม่กี่เขต โอกาสที่จะได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำ อย่างน้อย 20-30 คน ก็จะกระจัดกระจายไปตามพรรคแนวร่วม (ซึ่งไม่ได้แนบแน่นกับพรรคเพื่อไทยไปเสียทุกเรื่อง)

กระนั้นในภาพรวม แนวร่วมต้านตู่ก็ยังเหนียวแน่น คะแนนไม่กระเซ็น เผลอๆ ทษช.หายไปพรรคหนึ่ง อาจเป็นตัวแปรให้คนเลือกฝ่ายนี้ตัดสินใจง่ายขึ้น

ขณะที่ทัพใหญ่ ยังอยู่กับเพื่อไทย ซึ่งถ้าชนะ 160 เขตขึ้นไป ก็จะประสบความสำเร็จในการ “กินแดน” ป่วนระบบมีชัยบัตรใบเดียว ได้ ส.ส.เขตเกินจำนวนที่พึงได้ แม้ไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์เลย ก็ทำให้พรรคอื่นได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง

ว่าตามเนื้อผ้า ถ้าดูกระแสสองฝั่ง การเสนอชื่อแคนดิเดต นายกฯ ของ ทษช. ปลุกคนชั้นกลางเก่าให้กลับมาเกลียดกลัว ทษชว. “ไปให้สุด หยุดที่ลุงตู่” แต่ด้านกลับกัน กติกา 250 ส.ว. ลุงป้อมสรรหา ลุงตู่ตั้ง มาเลือกลุง ต. ก็ทำให้เสียคะแนนนิยมในหมู่ Swing Voters อย่างที่ อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ชี้

ประเด็น ทษช.จบ แล้ว แต่ประเด็น 250 ส.ว.และ “เจ้าหน้าที่รัฐ” ยังไม่จบ FC ทั้งสองขั้วแบ่งแยกชัดเจน แต่คนตรงกลางๆ ล่ะ จะเลือกใคร ก๊กที่สามหรือ แน่ใจนะว่าไม่ผสมพันธุ์ลุง

ขณะที่คนรุ่นใหม่ ก็มีแนวโน้มเลือกพรรคใหม่ จนพวกขลาดกลัวให้ร้ายกันวุ่น

เหลืออีก 17 วัน ความไม่ชอบธรรมเรื่อง 250 ส.ว. จะทวีความสำคัญ ถ้าส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.น้อยเกินคาด การหาพรรคร่วมรัฐบาลก็ยิ่งยาก เช่นพรรคภูมิใจไทยยังต้องออกตัว ไม่ใช่พรรคใกล้ชิดทหาร ถ้าแนวร่วมต่อต้านได้เกิน 250 ก็ยิ่งยุ่ง

นี่ต่างหาก ประเด็นที่จะพลิกผลเลือกตั้งอย่างจริงจัง

(หน้า 6)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน