ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ยังถือว่า “ระบอบทักษิณ” เป็นปรปักษ์ร่วมในทางการเมือง

เห็นได้จากมาตรการล่าสุดอันออกมาจาก ป.ป.ช.

นั่นก็คือการขยายผลจากคดีโครงการจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปยังนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และแม้กระทั่ง นายทักษิณ ชินวัตร

และเมื่อเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แคนดิเดต “นายกรัฐมนตรี” พรรคพลังประชารัฐ ยังอุตส่าห์แขวะไปถึง “ปู”จนได้

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ จัดเต็มดึงพรรคอนาคตใหม่เข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงา”ระบอบทักษิณ”ไปด้วย

การดีเบต ณ ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะกลายเป็นฝันร้ายไม่เพียงแต่ต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากแต่ยังสะเทือนไปถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อการรัฐประหาร และต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

เนื่องจากรัฐประหารเป็นผลจาก”แผนสมคบคิด”

เป็นการสมคบคิดของกลุ่มทหารและนักการเมืองที่เคยมีปฏิบัติการร่วมกันตั้งแต่สถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

และเพิ่งพ่ายแพ้จากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ต่อพรรคเพื่อไทย

เรื่องนี้จึงไม่เพียงแต่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เท่านั้นที่รู้ดีอย่างที่สุด หากแม้กระทั่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและพรรคประชาธิปัตย์ก็มิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้

การปราศรัยที่สวนเบญจสิริ กับการปราศรัยที่ศูนย์การค้า คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ จึงสะท้อนอารมณ์ค้าง

วันนี้ขั้วทางการเมืองจึงเด่นชัดยิ่งเหมือนเป็นการปะทะระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมพลังประชาชาติไทย กับ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่

นี่คือ 2 ขั้ว 2 แนวที่ตั้งประจันหน้ากันในทางการเมือง

เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมพลังประชาชาติไทย อยู่ในแนวเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน