บทบรรณาธิการ
บรรยากาศฝนตกหนักหลายสัปดาห์มานี้จนเกิดน้ำท่วมน้ำขังมาบรรจบกับกรณีป.ป.ช. ส่งสำนวนสอบเพื่อเอาผิดบุคคลในรัฐบาลช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 พอดี
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ของเมื่อปี 2554 เป็นช่วงพายุฝนกระหน่ำแล้วหลายลูก รัฐบาลใหม่ที่เพิ่งเข้ามารับงานหลังชนะการเลือกตั้งพบกับปริมาณน้ำที่กักเก็บไว้ตามเขื่อนต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง สูงจนน่าวิตก
น้ำท่วมใหญ่ในปีนั้นสร้างความเสียหายให้พื้นที่การเกษตร พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่อุตสาหกรรม เสียหายรวมกันทั้งหมด จนเรียกว่าเป็นมหาอุทกภัย
บทสรุปจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นคือต้องมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
แผนบริหารจัดการน้ำที่รัฐบาลในช่วงนั้นนำเสนอต่อประชาชนในปีถัดมายังมีข้อติดขัดทางกฎหมาย และวิธีการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะเมื่อมีคำสั่งศาลปกครอง จึงทำให้แผนยังเดินหน้าไม่ได้
จากนั้นน่าเสียดายว่าประชาชนไม่มีโอกาสตัดสินใจว่าควรจะให้แผนการนี้เดินหน้าไปได้หรือไม่ มีผู้เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยมากน้อยเพียงใด
เนื่องจากโอกาสในการตัดสินผลงานรัฐบาล ทั้งด้านลบและด้านบวก ถูกทำลายด้วยการล้มการเลือกตั้งในปี 2557
ถึงวันนี้ประชาชนก็ยังไม่มีโอกาสใช้สิทธิลงโทษรัฐบาลภายใต้การบริหารของพรรคการเมือง ว่าควรลงโทษพรรคใดที่มีส่วนทำให้เกิดมหาอุทกภัยปี 2554
ความเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจในช่วงฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องขณะนี้ในหลายภูมิภาคก็คือ การมุ่งเข้าไปจัดการตัวบุคคล แทนที่จะเป็นระบบ
ทั้งที่เป็นเรื่องที่คนทั่วไปรับทราบอยู่แล้วว่า กรณีนี้ต้องทำให้เกิดข้อถกเถียงทางการเมือง อันเป็นความขัดแย้งที่หาบทสรุปไม่ได้
หากพิจารณาจากสภาพการณ์ปัจจุบัน คงมีเกษตรกรไม่น้อย โดยเฉพาะชาวนาที่ปลูกข้าว ได้รับความเสียหายจากภาวะฝนกระหน่ำจนกระทบผลผลิตข้าว ที่ต้องเสี่ยงกับความชื้นและคุณภาพตก กระทบถึงราคา จึงเป็นเรื่องที่ต้องเปิดการสอบสวนรัฐบาลอีกหรือไม่
การเอาผิดบุคคลในรัฐบาลอาจกลายเป็นเรื่องที่ไม่สิ้นสุด และเกิดได้ทุกฤดูกาล