วิกฤตศรัทธา
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
วิกฤตศรัทธา : การเลือกตั้งผ่านพ้นมาครบสัปดาห์ ด้วยผลการเลือกตั้งที่สร้างความกังขาอย่างกว้างขวางมากที่สุดครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับเสียงวิจารณ์และการล่าชื่อถอดถอนที่พุ่งตรงไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เนื่องจากการสะสมของปัญหาและเหตุการณ์ที่ผู้คนไม่ไว้วางใจ นับตั้งแต่การจัดเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร กรณีเสียงคนไทยในนิวซีแลนด์ที่ออกมาใช้สิทธิและกากบาทในบัตรเลือกตั้ง 1,500 ใบ ไม่ถูกนับคะแนน
ขัดแย้งกับระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ว่าต้องการให้ทุกเสียงของประชาชนที่ใช้สิทธิมีความหมาย
นอกจากนี้ ความก้าวหน้าของเทคโน โลยีกลับไม่มีผล หรือส่งผลด้านบวกที่จะทำให้การนับคะแนนเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และโปร่งใส
ระหว่างการเฝ้ารอว่าสถานการณ์น่าอึดอัดใจนี้จะลากยาวไปถึงวันที่ 9 พ.ค. ที่จะประกาศผลอย่างเป็นทางการหรือไม่ เริ่มปรากฏกลุ่มประชาชนร่วมลงนามในการรณรงค์ล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ผ่านเว็บไซต์ change.org
ส่วนองค์กรนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ รณรงค์การล่าชื่อถอดถอนกกต. และออกแถลงการณ์เรียกร้องข้อมูลข้อเท็จจริงจากการเลือกตั้ง
เนื่องจากคะแนนเลือกตั้งเป็นตัวเลขและเป็นวิทยาศาสตร์ที่ต้องตรวจสอบที่มาที่ไปได้ชัดเจน มากกว่าการตอบว่าไม่มีเครื่องคิดเลข หรือ บัตรเขย่ง
หาก กกต.ถูกวิพากษ์วิจารณ์ขยายออกไปมากขึ้นกว่านี้ จะยิ่งตอกย้ำวิกฤตศรัทธาต่อองค์กรอิสระที่ถูกมองว่าไม่มีภูมิคุ้มกันด้านประชาธิปไตย
จุดอ่อนสำคัญของกกต.ชุดปัจจุบัน คือมีที่มาซึ่งไม่เชื่อมโยงกับประชาชน อีกทั้งช่วงเวลาของการแต่งตั้งและผู้แต่งตั้งยังอยู่ในช่วงรัฐประหารและรัฐบาลทหาร
การบรรเทาวิกฤตศรัทธาของกกต.ในขณะนี้ จึงควรแถลงคะแนนแต่ละหน่วยอย่างชัดเจน เมื่อคะแนนหน่วยใดมีข้อกังขา จะได้หาหนทางเร่งแก้ไข
หนทางเดียวที่กกต.จะได้รับการยอมรับ คือการแสดงให้เห็นว่าทำหน้าที่อย่างอิสระ เป็นมืออาชีพ และเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะเร่งลดข้อครหาหรือความคลางแคลงใจโดยทันที
และการเลือกหนทางนี้จะช้าไม่ได้
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง