FootNote : ปรากฏการณ์ อนาคตใหม่ เมื่ออะนาล็อกปะทะดิจิตัล
ไม่ว่าการปรากฏตัวของ “ป้าอุ๊” ที่กองปราบปราม ไม่ว่าการปรากฏ ตัวของ “ลุงๆ”กลุ่มสยามมานุสติ ที่กกต. เพื่อฟ้องรองกล่าวโทษ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล
โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่การลงโทษ 2 คนนี้และนำไปสู่การ ยุบพรรคอนาคตใหม่
สะท้อนออกอย่างเด่นชัดยิ่งของ “ช่องว่าง”
ไม่ว่าจะกล่าวโทษว่าการดำรงอยู่ของพรรคอนาคตใหม่ เป็นการดำรงอยู่เพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครอง ไม่ว่าจะกล่าวโทษว่าทิศทางของพรรคอนาคตใหม่คือทิศทางของคณะราษฎร
ทั้งหมดนี้มิได้เป็นเพียงเงาสะท้อนแห่งช่องว่างระหว่าง “วัย”หากแต่ยังเป็นเงาสะท้อนแห่งช่องว่างระหว่าง “ยุค”
เป็นการปะทะระหว่าง “อะนาล็อก” กับ “ดิจิตัล”
หากย้อนกลับไปศึกษา “สารจากนายกรัฐมนตรี”ให้ละเอียด หากย้อนกลับไปศึกษา “แถลง” ยาวเหยียด ณ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ของผบ.ทบ.
ก็จะเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของ “ป้าอุ๊” การเคลื่อนไหวในนาม “กลุ่มสยามมานุสติ” เสมอเป็นเพียงความต่อเนื่อง
ความต่อเนื่องของ “ช่องว่าง”ระหว่าง “ความคิด”
ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งได้ทะยานและไปมีชีวิตอยู่ในโลกแห่งยุค “ดิจิตัล” แล้วด้วยความคึกคัก แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งยังคงจมอยู่กับโลกในยุคแห่ง “อะนาล็อก”ไม่แปรเปลี่ยน
อุบัติแห่ง “พรรคอนาคตใหม่”จึงกลายเป็นสันปันน้ำอย่างสำคัญทั้งในทางความคิดและในทางการเมือง
หากใครติดตามไลฟ์จากงานล่าสุด “อนาคตใหม่ไฟแรงเฟร่อ”
โดยเฉพาะในห้วงแห่งการประมูลกระเป๋าถือซึ่งมีหนังสือจำนวนหนึ่งจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
คนที่อยู่ในยุค “อะนาล็อก”อาจขนพองสยองเกล้า คนที่อยู่ในยุค “ดิจิทัล”จะมากด้วยความตื่นเต้น คึกคัก สนุกสนาน
นี่คือสิ่งที่ “อนาคตใหม่”สร้างจุดต่างให้เกิดขึ้นในสังคม
ไม่ว่าจะรังเกียจ เหยียดหยามและมองเห็นแต่ด้านร้ายของพรรคอนาคตใหม่อย่างไร แต่ความมุ่งมั่นที่จะบดขยี้ ทำลายล้างก็อาจจะไม่ง่ายดายนัก เพราะอย่างน้อยพรรคนี้ก็มี 6.2 ล้านรองรับ
เพราะอย่างน้อยพรรคนี้ก็เดินไปตามที่รัฐธรรมนูญและพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด
ยิ่งกว่านั้นยังผ่านการรับรองจากวันที่ 24 มีนาคมอีกด้วย