สนิม

ความสับสนทางการเมืองและบรรยากาศ อึมครึมในสังคม ภายหลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม เสร็จสิ้นไปนั้น ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.

ที่ไม่สามารถนำเสนอผลการเลือกตั้ง จำนวน ส.ส. รวมไปถึงวิธีการคำนวณการได้มาซึ่งส.ส. ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ให้กับสังคมได้โดยฉับไว โปร่งใส

ทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัย รวมไปถึงกระบวนการตรวจสอบการทำงานของกกต. ติดตามมา

แต่แทนที่จะน้อมรับฟังการระบุจุดอ่อนอันเป็นเสมือนการชี้ขุมทรัพย์ให้ ท่าทีของ กกต. กลับยิ่งแข็งกร้าวไม่รับฟังใคร

และมีแนวโน้มจะทำให้ปัญหาทวีความซับซ้อนยุ่งยากยิ่งขึ้น

ทั้งที่ปัญหาเกือบทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานของ กกต. เอง

อาทิ

5 เมษายน ศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าวสำนักงาน กกต. ออกเอกสารชี้แจงกรณีมีข้อสงสัยในการคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า

ผลจากการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ โดยใช้ข้อมูลจากการประกาศผลการนับคะแนนของทุกเขตเลือกตั้งมาคำนวณจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในเบื้องต้น มีพรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 25 พรรคการเมือง

จนเกิดเสียงทักท้วงขึ้นว่า สูตรการคำนวณที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนนั้น

ไม่น่าจะถูกต้อง และไม่เป็นไปตามหลักกฎหมาย

ล่าสุด นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ให้สัมภาษณ์ว่า กกต.จะพิจารณาข้อความในมาตรา 128 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร

เมื่อถามว่าสูตรที่กำหนดไว้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ จำเป็นจะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นหนึ่งในประเด็นที่กกต.จะพิจารณาด้วย

คำถามก็คือประเด็นการคำนวณส.ส. เป็นข้อขัดแย้งในรัฐธรรมนูญที่จะต้องส่งตีความหรือไม่ และที่จริงแล้วอยู่ในขอบเขตอำนาจที่ กกต.สามารถดำเนินการได้เองหรือไม่

และการโยนเรื่องให้พ้นตัว จะยิ่งทำให้ปัญหาสับสนซับซ้อนขึ้นหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน