เสียงปริ่มน้ำ

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

เสียงปริ่มน้ำ – ผลการเลือกตั้ง ทำให้เชื่อกันว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะเป็นรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ แม้พรรคที่มีจำนวนส.ส.อันดับสองบวกพรรคขนาดกลางและพรรคเล็กพรรคน้อย จะเอาชนะพรรคที่มีส.ส.เป็นอันดับหนึ่งบวกอันดับสามได้

หนึ่ง เพราะไม่ให้เกียรติแก่ประเพณีปฏิบัติตามกระบวนการทางประชาธิปไตยที่ต้องให้พรรคมีส.ส.อันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลก่อน

สอง สูตรการคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของกกต. ต่างจากหลักวิชาการคณิตศาสตร์

สาม แม้มีวุฒิสมาชิกถึง 250 คนสนับสนุน แต่กลับปรากฏโฉมหน้าสมาชิกเป็นพี่น้องและบุคคลร่วมแนวทางที่วนเวียนอยู่ในแม่น้ำห้าสาย จึงทำให้เกิดกระแสสังคมด้านลบ

คะแนนสนับสนุนจึงไม่ชนะขาด

ความพยายามแข่งขันจัดตั้งรัฐบาลด้วย กลไกที่ได้เปรียบจากความสนิทสนมและสนับสนุนรัฐบาลชุดที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐประหาร อีกทั้งยังมีข้อกฎหมายที่ออกแบบมาใหม่ ทำให้คะแนนเสียงที่ควรจะเป็นถูกบิดเบี้ยว

แม้จะมีถ้อยคำปฏิเสธเรื่องการสืบทอดอำนาจ แต่ในทางปฏิบัติแล้วกลับไม่สามารถอธิบาย ต่อประชาชนได้ว่า การชูบุคคลที่เป็นหัวหน้าคสช.มาเป็นนายกรัฐมนตรี ต่างจากการสืบทอดอำนาจอย่างไร

ผลคะแนนเลือกตั้งส.ส. จึงทำให้ฝ่ายสนับสนุนการสานต่อนโยบายและสนับสนุนบุคคลที่เคยร่วมรัฐบาลช่วงรัฐประหาร ไม่ชนะถล่มทลาย

ความไม่สง่างามในการจัดตั้งรัฐบาลจึงเป็นอีกส่วนที่ทำให้คะแนนเสียงปริ่มน้ำ

ความเสี่ยงที่จะมีรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ หรือผลต่างราว 10-15 เสียง หมายความว่า การผ่านความเห็นชอบกฎหมายต่างๆ ไม่อาจเป็นไปได้อย่างราบรื่น

ด้วยภาวะดังกล่าว รัฐมนตรีที่เป็นส.ส.จะต้องมาร่วมประชุมสภาฯและอยู่ลงมติทุกครั้ง ซึ่งเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ ขณะที่ประธานสภาและรองประธานสภาต้องไม่ลงมติด้วย ตามมารยาททางการเมือง

เสียงที่ปริ่มน้ำจึงพร้อมจะทำให้รัฐบาล อ่อนแอลง

เมื่อกระแสสังคมต่อต้าน หรือตั้งคำถามถึงการเป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริงจากนานาประเทศ

หากต้องมีรัฐบาลที่ไปต่อไม่ได้ สุดท้ายแล้วการกล่าวว่าทำเพื่อประเทศชาติ ก็อาจกลายเป็นข้ออ้างที่ไร้ความหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน