ตอนเด็กๆ คุณคงมีความฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นคุณหมอ อยากเป็นคุณครู อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ อยากเป็นนักบิน และอื่นๆ อีกมากมาย

ดังนั้นเราจึงต้องพยายามตั้งใจเรียนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายหรือความฝันที่ตั้งไว้ ผมอยากบอกว่า การเรียนหนังสือทำให้เราพัฒนาได้ไปจนถึงจุดหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าหากมีจินตนาการร่วมด้วย ก็จะสามารถสร้างพลังอันมหาศาล และเสริมสร้างความฝันเราให้ใหญ่ขึ้นและเป็นจริงได้

มนุษย์มีความสามารถพิเศษนั่นคือ “มีความฝันได้” แต่คนทั่วไปไม่รู้ความพิเศษนี้ จึงใช้ชีวิตเละเทะ ปล่อยปละละเลยไปเฉยๆ บ้างก็เล่นเกมส์ ติดยาเสพติด หรือกระทำความผิดอื่นๆ มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติหรือ IYF ที่ผมเป็นที่ปรึกษาอยู่นี้ จึงกำลังใส่ “ความฝัน” ให้กับเยาวชนและผู้คนมากมาย เพราะ หากมีความฝันก็จะเปลี่ยนเป็นคนที่ยิ่งใหญ่

นอกจากจะมีความฝันแล้ว การเลี้ยงดูความฝันให้ใหญ่ขึ้นก็ยิ่งสำคัญมากกว่า หลายครั้งเราทำให้ความฝันที่มีเล็กลงเพราะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่ถ้าอยากให้ความฝันใหญ่ขึ้นเราต้องไม่เปรียบเทียบครับ เพราะนั่นคือ การฆ่าความฝันในตัวเรา

พวกคุณคงรู้จักสองพี่น้องตระกูลไรต์ชาวอเมริกัน นักประดิษฐ์เครื่องบินลำแรกของโลกกันใช่มั้ยครับ? พวกเขาเริ่มต้นจากการมีความฝันว่าอยากบินได้บนท้องฟ้า แต่ความฝันของพวกเขาไม่ได้จบลงแค่เพียงความฝันเท่านั้น

ในปี ค.ศ.1900 พวกเขาเริ่มประดิษฐ์เครื่องบินครั้งแรกแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ทดลองกี่ครั้งก็พบกับความล้มเหลว จนในปีค.ศ.1903 พวกเขาพัฒนาเครื่องบินจนสามารถบินขึ้นได้นาน 59 วินาที ไกล 852 ฟุต และปีค.ศ.1908 พวกเขาสามารถทำการบินข้ามทวีปไปฝรั่งเศสได้สำเร็จ

พวกเขาสามารถเอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกได้ทั้งที่จริงๆ แล้วมนุษย์บินไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่พวกเขามีความฝันและเริ่มทำตามฝันแม้จะเจอความล้มเหลวมากมายก็ตาม

ความฝันคือการท้าทาย ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราต้องฝันให้ใหญ่ คนที่มีความฝันจะทำอะไรที่แตกต่าง จิตใจของคนเราสามารถเก็บความฝันที่ขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็ได้ครับ คนมีความฝันจะไม่นิ่งอยู่เฉยๆ แต่จะฝึกซ้อมฝึกฝน เพื่อไม่ให้สูญเสียความฝันไป

หลายคนมีความฝันว่าอยากเป็นอาชีพนั้นอาชีพนี้ แต่คุณต้องลองใส่ความฝันลงไปในอาชีพที่คุณอยากเป็นดูครับ เช่น “ฉันอยากเป็นคุณครู” เมื่อใส่ความฝันเข้าไปก็จะกลายเป็น “ฉันอยากเป็นคุณครูที่จะสอนให้เด็กๆ มีความหวังและมีความฝัน” ส่วนความฝันของผม “ผมอยากเป็นผู้บรรยายเรื่องโลกของจิตใจที่ทำให้ผู้ฟังมีอิสระมีความสุขและสันติสุขในจิตใจ”

คุณต้องใส่ความฝันที่ใหญ่โตที่สุดลงไปในสิ่งที่อยากทำ “ฉันจะเป็นสุดยอด เป็นอับดับหนึ่ง ในการทำให้คนมีความสุข ด้วยอาชีพ…” ถึงแม้ว่าจะประกอบอาชีพเดียวกัน แต่ทำงานแบบไม่มีความฝัน ก็จะทำงานไปวันๆ กิน นอน เข้าห้องน้ำ แค่นั้นครับ

แต่เมื่อไหร่ที่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น พลังงานและความสามารถของคุณก็จะเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่ให้ความสุขและความหวังแก่ผู้อื่นเท่านั้น ตัวของคุณเองก็จะมีความสุขและกลายเป็นคนที่จิตใจยิ่งใหญ่ขึ้นได้ด้วย อย่าลืมพูดความฝันกับตัวเองทุกวันนะครับ “ฉันเป็นอันดับหนึ่งที่จะทำให้คนมีความสุข”

แม้ว่าในขณะที่คุณพูดความฝันนี้ มันจะยังไม่เกิดขึ้นจริงก็ตาม แต่การนำจิตใจของเราไปสู่จุดนั้นก่อน ความฝันก็จะค่อยๆเป็นจริงตามนั้นอย่างแน่นอนครับ


ดร.(กิตติมศักดิ์) ฮักเชิล คิม
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประจำประเทศไทย
FB : Mind World by Kim Hak Cheol, Ph.D.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน