FootNote: ปราการ 245 ส.ส. แกร่ง มั่นคง กับประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย

เหตุใดความพยายามของพันธมิตร 7 พรรคต่อต้านการสืบทอดอำ นาจคสช.จึงเน้นไปยังพรรคประชาธิปัตย์

กระทั่งดูคล้ายจะละเลยทางพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาไปบ้าง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ถึงกับยกย่อง
“3.9 ล้านคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ คือ อัญมณีเม็ดสุดท้ายที่จะต้องนำมารวม”

นั่นก็เพราะพรรคประชาธิปัตย์คือสายสัมพันธ์ใหม่
ขณะที่พรรคภูมิใจไทยคือคนที่เคยเป็นพรรคไทยรักไทยและ พรรคพลังประชาชนมาด้วยกัน ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนาก็เป็น อันหนึ่งอันเดียวตั้งแต่ยุค นายบรรหาร ศิลปอาชา มาแล้ว

52 เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่จะทำให้ 245 แปรเป็น 297 ภายในพริบตาพลัน

ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยจึงดำรงอยู่ในสภาพ อันสามารถเป็น “ตัวแปร” ไม่ว่าจะเอนไปทางฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือว่าเอนไปทางตรงกันข้าม
ข้อน่าสังเกตเป็นอย่างยิ่ง คือ ท่าทีในลักษณะการซื้อเวลา

หากจับข่าวที่”ปล่อย”ออกมาตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 24 มีนาคม กระทั่งหลังสุดภายหลังการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่
จะสัมผัสได้ถึงความพยายามในลักษณะ”มัดมือชก”ทั้งต่อพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย

แต่เหตุใดจากวันที่ 24 มีนาคม ผ่านวันที่ 24 เมษายน กระทั่งมาถึงวันที่ 24 พฤษภาคมในอีก 2-3 วันข้างหน้าก็ยังไม่มีความแจ่มชัดจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย

ทั้งๆที่อำนาจอยู่ในมือของคสช. ทั้งๆที่กฎกติกาและท่าทีอันปรากฏผ่านรายชื่อ 250 ส.ว.ตลอดจนกระบวนการแจก 11 ส.ส.ให้ 11 พรรคการเมือง บ่งบอกให้รู้ความปรารถนาของคสช.เป็นอย่างไร
การซื้อเวลาของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยจึงสำคัญ

ความสำคัญในที่นี้ไม่เพียงแสดงออกผ่าน 245 เสียงอันยืนยันหลัก การมั่นคงว่า ต้องการหยุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการหยุดการสืบทอดอำนาจของคสช.เป็นความกล้าหาญ

ความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวนี้ เป็นการต่อสู้บนวิถีแห่งระบบรัฐสภา อย่างไม่ยอมระย่อ ท้อถอย
ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน