ไม่ใช่โรงละคร : บทบรรณาธิการ

ไม่ใช่โรงละครการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ณ สถานที่ชั่วคราว หอประชุมบริษัททีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ เปิดฉากด้วยบรรยากาศโต้แย้งถกเถียงของบรรดาสมาชิก ตามปกติของรัฐสภาทั่วไป เพียงแต่ประเทศไทยไม่มีบรรยากาศเช่นนี้มานาน 5 ปีแล้ว

การกลับมาของบรรยากาศนี้โดยเฉพาะช่วงเฟ้นหาประธานสภาผู้แทนฯ อาจถูกคนส่วนหนึ่งมองว่าเป็นความวุ่นวาย และการต่อรองผลประโยชน์แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในวิถีประชาธิปไตยที่ควรเป็น

เพราะแต่ละคนต้องทำหน้าที่เป็น “ผู้แทน” ของประชาชน ไม่ใช่ “ผู้ออกคำสั่ง” ต่อประชาชน

ดังนั้นการจะได้ข้อตกลงใดๆ ในรัฐสภาจึงต้องผ่านการถกเถียง ต่อรอง และตรวจสอบซึ่งกันและกัน และเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน

นี่คือข้อแตกต่างระหว่างช่วงเวลารัฐประหาร และช่วงหลังการเลือกตั้ง

บรรยากาศช่วงหนึ่งของวันประชุมสภานัดแรก ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นบ่อยในที่ประชุมรัฐสภา คือช่วงที่บรรดาสมาชิกปรบมือให้กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขณะลุกขึ้นกล่าวยุติปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ของตนเอง จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่องสมาชิกภาพส.ส.

เสียงปรบมือที่กึกก้อง ทำให้นายชัย ชิดชอบ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาชั่วคราว กล่าวเตือนให้ยุติว่า “นี่ไม่ใช่โรงละคร”

แต่การปรบมือยังดังต่อไปและยุติลงเองเมื่อนายธนาธรเดินออกจากห้องประชุม

แม้จะเป็นการแสดงออกที่ไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงใดๆ เป็นเพียงสัญลักษณ์ของการให้กำลังใจเพื่อนสมาชิกที่จำต้องยุติหน้าที่ในสภา ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้เวลานานเท่าใด หรือมีโอกาสเป็นตัวแทนประชาชนกลับเข้ามาทำหน้าที่อีกหรือไม่

สําหรับสมาชิกอื่นๆ ที่ยังมีโอกาสทำหน้าที่ต่อไปในสภาผู้แทนฯ ควรต้องทำให้ประชาชนเห็นด้วยว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนฯ ไม่ใช่โรงละคร

ต้องไม่แสดงออกอย่างรุนแรง หรืออาละวาดอย่างที่เคยเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร

สมาชิกสภาอาจต้องโต้เถียง ประท้วง ประนีประนอมและต่อรองผลประโยชน์อีกหลายครั้ง แต่ต้องทำให้รัฐสภามีกลไกแก้ไขหรือบรรเทาความขัดแย้งลงได้ด้วยวิถีทางประชาธิปไตย

เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและไม่หันไปพึ่งวิถีทางรัฐประหารอีก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน