ชัยชนะของผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 เชียงใหม่ ไม่เพียงแต่สะท้อนแนวโน้มและทิศทางการเมือง หากแต่ยืนยันว่ามาตรการลงโทษแทบไร้ความหมาย

คะแนนกว่า 70,000 ที่พรรคอนาคตใหม่ได้มาเด่นชัดยิ่งว่ามีองค์ประกอบอย่างไร

คือ การผนวก พรรคเพื่อไทย กับ พรรคอนาคตใหม่

เพราะผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พรรคเพื่อไทยได้คะแนนกว่า 5 หมื่น พรรคอนาคตใหม่ได้กว่า 2 หมื่น

เมื่อว่าที่ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้ใบส้ม คะแนนอันเคยเป็นของพรรคเพื่อไทยก็ไหลไปเป็นของพรรคอนาคตใหม่ จากกว่า 2 หมื่นก็กลายเป็นกว่า 7 หมื่นและอาจทะลุถึง 8 หมื่น

นี่คือความเป็นพันธมิตรระหว่างเพื่อไทย อนาคตใหม่

ถามว่าเป้าหมายของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 อันเป็นผลจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 คืออะไร

1 เพื่อทำลายพรรคเพื่อไทย

ขณะเดียวกัน 1 ด้วยความหวังว่าหากทำลายพรรคเพื่อไทยได้ก็จะสามารถสืบทอดอำนาจต่อไป

ถามว่าทำลายพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่

คำตอบเห็นชัดจากผลการเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยได้ 136 ขณะที่พรรคพลังประชารัฐได้เพียง 115 พรรคเพื่อไทยยังคงเป็นพรรคอันดับ 1

ความหมายก็คือ ยังไม่สามารถทำลายพรรคเพื่อไทยได้

ยิ่งกว่านั้น ไม่เพียงแต่ยังไม่สามารถทำลายพรรคเพื่อไทยได้หากแต่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ยังเป็นการแจ้งเกิดให้กับพรรคอนาคตใหม่

พลันที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่จับมือเป็นพันธมิตร ก็ยังสามารถรุกไล่คสช.และพรรคพลังประชารัฐได้

นี่คือโจทย์ใหม่ในทางการเมืองให้กับคสช.

การเลือกตั้งซ่อมที่เขต 8 เชียงใหม่ อาจเป็นตัวอย่างเล็กๆแต่ก็ยืนยันสภาพความเป็นจริงทางการเมือง “ใหม่”ได้เป็นอย่างดี

การทำลายพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย อาจดำเนินต่อไป

กระนั้น แม้จะให้ใบส้มกับพรรคเพื่อไทย แต่ก็เท่ากับเปิดช่องทางให้กับพรรคอนาคตใหม่ โดยที่พรรคพลังประชารัฐยังเป็นด้านรอง

นี่คือแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นแทบทุกสมรภูมิของการเลือกตั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน