ไม่สะท้อนเสียงที่มา
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ไม่สะท้อนเสียงที่มา – คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่แล้ว โดยผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ ได้รับชัยชนะด้วยคะแนน 75,891 คะแนน
ทิ้งห่างผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้อันดับสองด้วยคะแนน 27,861 คะแนน ซึ่งก็ลดลงจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ขณะที่ผู้สมัครประชาธิปัตย์นั้นได้เพียง 1,738 คะแนน
ขณะเดียวกัน ก็ประกาศรายชื่อสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อจากผลการคำนวณคะแนนใหม่อีก 2 คน ได้แก่ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ส่งให้ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์พรรคไทรักธรรมพ้นสมาชิกภาพไป
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ข้อสงสัยและประเด็นที่นำมาซึ่งการถกเถียงของผลการคิดปาร์ตี้ลิสต์ดังกล่าว มีการนำไปเปรียบกับการคำนวณคะแนนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อก่อนหน้านี้ ที่ทำให้พรรคเล็กที่ได้คะแนนต่ำกว่า 71,000 คะแนนได้ที่นั่งส.ส.
พรรคที่ชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนถล่มทลาย กลับไม่ส่งผลแปรผันโดยตรงต่อจำนวนที่นั่งในสภา แต่กลับไปผกผันอยู่กับพรรคอื่น ซึ่งไม่สะท้อนนิยมและความต้องการอย่างแท้จริง
แม้คณะกรรมการการเลือกตั้งจะอ้างว่าเป็นการจัดสรรตามกฎหมาย ไม่ได้คิดจากคะแนนเขตเลือกตั้งเขตล่าสุดเพียงเขตเดียว แต่นำคะแนนดิบไปรวมกับคะแนนดิบที่มีอยู่เดิมทั้งประเทศ แล้วนำมาคำนวณใหม่ จึงทำให้ได้ส.ส.เพิ่มขึ้นเช่นนี้
ประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง จะยอมรับได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเจตนารมณ์ของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เล็งเห็นผลโดยตรงไม่ให้มีพรรคการเมืองใดได้คะแนนเสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เหมือนกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540
นอกจากนี้ ยังซ่อนเงื่อนงำปมบางประการ เพื่อให้บางกลุ่มได้มีโอกาสสืบทอดอำนาจต่อ โดยผ่านกลไกต่างๆ ที่ผ่านการวางแผนไว้อย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน ซึ่งนับวันแต่จะเผยแสดงออกมา
นอกจากจะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอแล้ว รัฐบาลที่กำลังจัดตั้งในครั้งนี้ ก็ส่อเค้าว่าจะขาดเสถียรภาพ เพราะเต็มไปด้วยการต่อรองผลประโยชน์ ลืมสัญญาประชาคมที่ให้ไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้ง
ส่วนหนึ่งมาจากความบิดเบี้ยวของกติกาที่ไม่สะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชนแต่แรก
อ่านข่าว