บทบรรณาธิการ : ประชาชน–ประชาธิปัตย์
ประชาชน–ประชาธิปัตย์ : นิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง บทเรียนและบทบาทพรรคประชาธิปัตย์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.83 ระบุว่า รู้สึกเบื่อและไม่ชอบวิธีการดำเนินงานทางการเมือง
นอกจากนี้ยังพบว่า ร้อยละ 18.00 ถูกพรรคอนาคตใหม่แย่งฐานคะแนนเสียงไป ร้อยละ 17.05 เห็นว่านักการเมืองส่วนใหญ่ในพรรคนี้พูดเก่งอย่างเดียว แต่ปฏิบัติไม่เป็น
ร้อยละ 15.31 เห็นว่าถูกพรรคพลังประชารัฐแย่งฐานคะแนนเสียงไป ร้อยละ 13.40 รู้สึกเบื่อและไม่ชอบผู้สมัครส.ส.พรรคนี้ และร้อยละ 12.85 เบื่อและไม่ชอบวิธีทางการเมืองของหัวหน้าพรรคก่อนหน้านี้
เป็นเสียงสะท้อนหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งและหล่นไปเป็นพรรคอันดับ 4
เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์มีปฏิกิริยาตอบโต้ทันที โดยแย้งเช่นกันว่ามีประชาชนจำนวนมากไม่ได้มีส่วนตอบผลการสำรวจ พร้อมยกจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ขาดหายไปมาข่มทับ
อ้างด้วยว่าพรรคยึดถือและปฏิบัติตลอดมาว่าดำเนินการเมืองโดยยึดหลักความซื่อสัตย์ สุจริต ต่อประชาชน และประเทศชาติ อีกทั้งยกตัวอย่างผลงานเดิมๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่มาอวดอ้าง
ขณะเดียวกัน ก็ท้าทายให้ไปสำรวจความ คิดเห็นพรรคการเมืองอื่นบ้าง แต่ไม่วายกล่าวหามีจุดยืนทางการเมืองที่คิดถึงประโยชน์ของพวกพ้อง คิดนโยบายมาเพื่อทุจริต เลือกปฏิบัติกับประชาชน ใช้เสียงข้างมากในทางที่ผิด ทำลายระบบตุลาการ ซื้อตัวนักการเมืองเพื่อให้มาอยู่พรรคของตนเพื่อให้มีอำนาจ
กลายเป็นวาทกรรมที่ถูกเปรียบเปรยว่า เป็นแผ่นเสียงตกร่อง
อย่างไรก็ตาม จากจุดยืนที่พรรคมีแนวโน้มชัดเจนไปร่วมกับพรรคการเมืองที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติให้การสนับสนุนเพื่อตั้งรัฐบาล
ได้มีผู้ศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรคนี้ รวมทั้งชนะเลิศคำขวัญเนื่องในโอกาสพรรคประชาธิปัตย์ครบรอบ 50 ปี เมื่อปี 2538 ที่ว่า “50 ปี ประชาธิปัตย์ พัฒนาประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน” ก็ออกมาเรียกร้องให้ยึดมั่นในจุดยืนดังกล่าวให้คงมั่น
ทั้งหมดนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะเลือกที่จะอยู่ฝ่ายใด ระหว่างการรักษาความศรัทธา ของประชาชน กับการเข้าไปร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับอุดมการณ์ที่อ้างว่ายึดมั่นมาโดยตลอด
การเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนจะร่วมกันตัดสินว่าเป็นพรรคที่น่าเบื่อจริงหรือไม่
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
