แรกที่ได้ยินเสียงจาก นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษ สำนักคดีสอบสวน 3 ออกมากล่าวถึงการเข้าไปในตลาดหุ้นของ”ธรรมกาย”

หลายคนอาจยังเฉยๆ

“เงินที่ถูกโอนหรือโยกไปเล่นหุ้นทั้งหมดที่ตรวจพบมีกว่า 1,000 ล้านบาท” แม้จำนวนเงิน 1,000 ล้านบาท

อาจจะน่าตื่นเต้น ระทึกใจ

ต่อเมื่อได้รับคำยืนยันจาก พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ โดยแจกแจงรายละเอียดเพิ่มขึ้น

“กรณีพระทัตตชีโวนำเงินจากบัญชีของวัดพระธรรมกายที่ได้จากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ไปซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้พบคดีเพิ่มเติมอีก 4 คดี

“1 ในนั้นคือ พระทัตตชีโว ไปซื้อหุ้น”

ข่าววัดพระธรรมกายพัวพันกับการซือ ขายหุ้นใน”ตลาดหลักทรัพย์”จึงมีน้ำหนัก จริงจังมากขึ้น

จำเป็นต้องตามไปฟัง นายขจรศักดิ์ พุทธนานุภาพ

จากการตรวจสอบข้อมูลพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส พบว่า ในปี 2553-2559 ได้นำเงินวัดไปเล่นหุ้นอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 1,000 ล้านบาท

โดยกระจายให้บุคคลและพระนำไปลงทุน

หลักฐานปรากฏชัดจากที่ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร โอนจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เข้ามายังบัญชีวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย ก่อนถูกส่งต่อไปให้พระและกลุ่มบุคคลต่างๆ

พนักงานสอบสวนจำเป็นต้องเรียก พระมหาบุญชัย จารุทัตโต พระผู้รับผิดชอบ ด้านการเงินของวัดเข้าให้ปากคำอีกครั้ง

รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และโบรกเกอร์ต่างๆ ที่ทำหน้าที่รับซื้อ ขายหุ้นให้กับนอมินีของพระทัตตชีโวด้วย

แม้พระทัตตชีโวจะไม่ได้ใช้ชื่อในการเล่นหุ้น แต่เชื่อว่ามีการใช้กลุ่มบุคคลที่เป็นนักธุรกิจให้เป็นนอมินี

มีทั้งการเล่นหุ้นและปั่นหุ้น

เพียงฟัง “น้ำเสียง” อันมาจาก นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ ประสานเข้ากับ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ

ก็ “สัมผัส” ได้ถึง “เรื่องใหญ่”

เป็นเรื่องใหญ่ซึ่งไม่ว่า พระธัมมชโย ไม่ว่าพระทัตตชีโว จะอาศัยเพียงการสวดมนต์ไม่ได้แล้ว

จำเป็นต้อง “แถลง” จำเป็นต้อง”ชี้แจง”

เพราะในความเป็นจริงที่ นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุ

“พระที่ยังครองสมณเพศไม่สามารถเปิดบัญชีซื้อ ขายหุ้นได้

“ที่ผ่านมา ยังไม่พบว่ามีพระมาเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นแต่อย่างใด ในการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นนั้นต้องแสดงและยืนยันตัวตน”

เท่ากับเรียกร้องให้มีการ “เปิด” โบรกเกอร์อันเป็น”นอมินี”

เท่ากับต้องแสดง “เส้นทาง” และกระบวนการเคลี่อนไหวของ “บัญชี”ในการประกอบธุรกรรม

เพราะว่า “คณะพนักงานสอบสวน”สรุปแล้วว่ามีถึง 4 คดี

เพราะว่า “คณะพนักงานสอบสวน”สรุปและแถลงออกมาแล้วว่า มีทั้ง”การเล่นหุ้น”และ”ปั่นหุ้น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน