คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจสอบและเรียกเก็บภาษีนักการเมือง 60 คนในรัฐบาล 2 ชุดก่อนหน้านี้จะส่งผลต่อแนวทางปรองดองหรือไม่
คำตอบจากสมาชิกรัฐบาลชัดเจนว่า ทุกเรื่องที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย จะนำมาเป็นเครื่องมือต่อรองกันไม่ได้
กรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการสร้างความปรองดอง
เพราะการปรองดองของรัฐบาลนี้ยืนอยู่บนหลักที่ไม่มีการอภัยโทษและนิรโทษกรรม
คําตอบที่ชัดเจนนี้จึงเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนทั่วไปแล้วว่า การปรองดองที่คณะผู้เกี่ยวข้องจัดการอยู่นั้น ต้องแยกออกจากคดีความและข้อผูกพันทางกฎหมายต่างๆ
ในที่นี้ ผู้สูญเสียในเหตุการณ์ทางการเมืองจึงคาดหวังได้ว่า การดำเนินคดีผู้มีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์ความรุนแรงจะคงอยู่และดำเนินต่อไป
โดยเฉพาะในส่วนคดีที่ศาลชี้สาเหตุการเสียชีวิตของพลเรือนไร้อาวุธจำนวนหนึ่งในเหตุการณ์ปี 2553 ที่เชื่อได้ว่ามาจากอาวุธของเจ้าหน้าที่รัฐ
เป็นที่เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า จะเป็นคดีที่ไม่อาจเป็นเครื่องมือต่อรองใดๆ ได้
หลักเกณฑ์ของการปรองดองดังที่กล่าวมานี้ หากปฏิบัติโดยเท่าเทียมกันต่อทุกคนทุกฝ่ายแล้ว ย่อมมีผลต่อกระบวนการปรองดอง
เพราะเป็นปมที่ประชาชนหลายฝ่ายเห็นคล้ายกันว่านิรโทษกรรมจะต้องไม่ถูกเหมารวมอยู่ในการปรองดอง
ไม่เช่นนั้นคงไม่เกิดการต่อต้านอย่างเมื่อปี 2556 ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะคดีทางการเงินของนักการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคดีอาญาที่มีผู้เสียชีวิตด้วย
ในเมื่อต้องสะสางคดีการเมืองค้างเก่าแล้วจึงควรทำให้ครอบคลุมทุกเรื่อง เพื่อให้เกิดความยุติธรรม
