การปล่อยวลีที่ว่า “อย่าทิ้งผม อย่าให้ผมพูดคนเดียว”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้หลุดออกจากที่ประชุมครม.
ถือได้ว่าเป็น”หมัดเด็ด”
เป็นหมัดเด็ดหลังบรรดา 7 หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านออกโรงในการเสวนา “ปัญหาและทางออกของชาติ”
ก่อนการประชุมรัฐสภาวาระ”แถลงนโยบายรัฐบาล”
เป็นหมัดเด็ดในบรรยากาศแห่งการตระเตรียมลับคมหอก คมดาบจากบรรดาขุนพลนักพูด ยืนยันความพร้อมในการชู 3 พี่ น้องตระกูล ป.ขึ้นเขียง
เรียงจาก ป.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามด้วย ป.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปิดท้ายด้วย ป.ป๊อก อนุพงษ์ เผาจินดา
ฤทธิ์หมัดจะมากน้อยเพียงใดสัมผัสได้ในวันที่ 25 กรกฎาคม
คล้อยหลังปฏิบัติการ IO แห่งวลี”อย่าทิ้งผม อย่าให้ผมพูดคนเดียว” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงไม่กี่นาทีก็ปรากฏการเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก
นั่นก็คือ องครักษ์พิทักษ์”บิ๊กตู่”
ไม่ว่าจะเป็น 20 หน่วยเคลื่อนที่เร็วอันตระเตรียมโดยพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยตอบโต้ทันทีทันความจาก ส.ว.ที่นำโดย นายวันชัย สอนศิริ
คำชี้แนะจากรุ่นพี่ระดับ นายวีระกร คำประกอบ ก็คือ
“ขอให้ใจเย็นๆ ยิ้มอย่างเดียวก็จะชนะใจแล้ว กินน้ำแข็งเยอะๆ ในการอภิปรายอาจโดนเยอะหน่อย ต้องใจเย็นๆ ขอให้มีหน้าตาสดใส
นั่งยิ้มตลอดการอภิปรายก็ถือว่าเป็นเรื่องดี”
ไม่ว่าการออกโรงของ นายวันชัย สอนศิริ จากวุฒิสภา ไม่ว่าการออกโรงของ นายวีระกร คำประกอบ จากสภาผู้แทนราษฎร ถือได้ว่าเป็นการขานรับ
ขานรับเสียงขับขาน “อย่าทิ้งผม อย่าให้ผมพูดคนเดียว” จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยแท้
หากมองจากท่วงทำนองของนายกรัฐมนตรีคนเดิม นับแต่หลังรัฐ ประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา
นี่คือเสียงอ้อนในท่วงทำนองแบบ สายัณห์ สัญญา
เป็นเสียงอ้อนเมื่อเดินทางไปตรวจราชการพบปะประชาชน เป็นเสียงอ้อนเมื่อยืนอยู่หน้าโพเดียม ท่ามกลางวงล้อมนักข่าว
เสียงอ้อนนี้จะมีพลานุภาพภายในอีกวัน 2 วันข้างหน้า
