มี 2 ประเด็นที่ทำให้กรณีวิสามัญฆาตกรรม นายชัยภูมิ ป่าแส มากด้วยความละเอียดอ่อน
เป็นประเด็นในทาง “ความคิด”
1 เป็นความละเอียดอ่อนอันเป็นภาพสะท้อนของการเหยียดในทาง “เชื้อชาติ”
1 เป็นความละเอียดอ่อนในเรื่องของ “ความตาย”
ต้องยอมรับว่าการตายของ นายชัยภูมิ ป่าแส เป็นการตายอย่างที่เรียกว่า “ผิดปกติ”
อย่างนั้นคงไม่เรียกว่า “วิสามัญฆาตกรรม”
การตายอย่างที่เรียกว่า “วิสามัญฆาตกรรม”จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นกรณีพิเศษ
ถือได้ว่าเป็นการตรวจสอบจาก”ภายใน”
ขณะเดียวกัน เมื่อ นายชัยภูมิ ป่าแส เป็นชนเผ่าลาหู่ การลงความเห็นแต่ละคำ แต่ละบรรทัด จึงเท่ากับเป็น”เงาสะท้อน”ในทางความคิด
“เคารพ” หรือว่าเป็น”การเหยียด”ในทาง “เชื้อชาติ”
หากพิจารณาจากการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 มีนาคมจาก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท
นี่แหละคือ ความเป็น”ผู้ใหญ่”
แม้จะยืนอยู่ข้างเดียวกับ “ลูกน้อง”ในฐานะ”ผู้บังคับบัญชา” แต่ก็มากด้วยความสุขุม
มิใช่”สุขุม” อย่างธรรมดาหากตามมาด้วย”คัมภีรภาพ”
ท่วงทำนองอย่างนี้แหละคือท่วงทำนองแห่ง”สุภาพบุรุษ”อย่างที่ถอดออกมาจาก “GENTLEMAN”
ตามที่ กุหลาบ สายประดิษฐ์ ต้องการ
พื้นฐานในทางความคิดก็คือ ไม่ว่าจะเป็น “คนไทย” ไม่ว่าจะเป็น “คนลาหู่” ชีวิตของเขาก็มีความหมาย
แม้จะสงสัยว่าพัวพันกับ”ยาเสพติด”ก็ไม่ควร”ฆ่า”
กฎหมายมี ศาลสถิตยุติธรรม มีสมควรต้องนำเข้าสู่กระบวน การยุติธรรม
และเมื่อตายแล้วก็ควรให้ความเคารพ
แต่ที่ผ่านมานับแต่วันที่ 17 มีนาคม ณ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ กลับมิได้เป็นไปอย่างนั้น
ผู้คนจึง”แคลงคลาง” ผู้คนจึง”กังขา”