‘คนสวย’
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
‘คนสวย’ – ความเข้าใจในสังคมเดิมโดยทั่วไปว่า เมื่อผู้หญิงถูกเรียกว่าคนสวย เท่ากับเป็นคำชม และไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
แต่เหตุการณ์ในห้องประชุมรัฐสภาวาระการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีถอนคำพูดว่า “คนสวย” จากการเรียกส.ส.หญิง พรรคอนาคตใหม่ หลังถูกประท้วงนั้น บ่งบอกและตอกย้ำว่า ความเข้าใจเดิมนั้นเปลี่ยนไปแล้ว
การรีบถอนคำพูด แสดงถึงความเข้าใจในระดับหนึ่ง
แม้จะมีส.ส.บางคนหรือบางส่วนมองไม่เห็นหรือไม่เข้าใจในประเด็นนี้อย่างถ่องแท้ ใช้อคติตอบโต้การประชดประชันอย่างไม่เป็นสาระ
แต่กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่นักการเมืองและคนในสังคมต้องตระหนักและระมัดระวังถึงการใช้คำว่าคนสวย ในบริบทและท่าทีที่เหมาะสมในสถานการณ์อื่นๆ
เป็นไปได้ว่า การเอ่ยชมนางงาม หรือดารา นักร้อง ว่าเป็นคนสวย อาจเป็นเรื่องปกติ
เพราะหน้าตา บุคลิกภายนอกที่รวมกันเรียกว่า คนสวย เป็นลักษณะทางกายภาพที่เวทีการประกวดเน้น นอกเหนือไปจากคุณสมบัติอื่นๆ ที่เป็นความสามารถ
การใช้คำว่า คนสวย ย่อมขึ้นอยู่กับว่าบริบทและท่าทีของผู้ที่ใช้คำพูดนี้ในที่สาธารณะ เป็นอย่างไร มีลักษณะคุกคาม หรือลดคุณค่าด้านวิชาชีพของผู้ที่ถูกเรียกหรือไม่
การประท้วงของส.ส.หญิงพรรคอนาคตใหม่ จึงถือเป็นการแสดงหน้าที่ในฐานะตัวแทนประชาชนทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเพศอื่นๆ
เพื่อให้เกิดความระมัดระวังไม่ให้เกิดการก้าวล่วง และเคารพความเสมอภาคต่อกัน
จากการที่สังคมไทยเคยเป็นสังคมที่ผู้ชายอุปถัมภ์ผู้หญิงมาก่อน การแสดงท่าทีหรือถ้อยคำอาจยึดติดกับสังคมผู้ชายเป็นใหญ่
เช่นเดียวกับความคิดเห็นของทั้งผู้ชาย หรือแม้แต่ผู้หญิงยังมีลักษณะที่ยังไม่เข้าใจถึงการที่สังคมต้องปรับตัวเข้าสู่ความเท่าเทียม ซึ่งจะต้องมาจากทัศนคติที่ให้เกียรติและเคารพผู้อื่น
เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเวลาสำหรับการปรับความเข้าใจ แต่ผู้ที่เป็นตัวแทนประชาชนควรตระหนักให้ได้ก่อนว่า การกระตุ้นเตือน หรือประท้วง หรือเรียกร้องสิทธิตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องดัดจริต
ไม่ควรนำทัศนคติบิดเบี้ยวมาเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการทางสังคมในเรื่องนี้