ตู่เก่งจัง จากที่กลัวกันว่าจะหนีประชุมสภา กลายเป็นหัวหน้าทีมยืนซดฝ่ายค้าน ตอบโต้กันมันหยด รัฐมนตรีคนอื่นถอยไป องครักษ์แทบจะไร้ความหมาย โดดเด่นทุกลูกทุกช็อต ทั้งตัดพี่ตัดน้อง ทั้งชี้หน้าปะทุอารมณ์ ให้รู้ซะมั่งว่าใครใหญ่
สรุปง่ายๆ ผลการอภิปราย คนรักตู่ก็ยิ่งรัก ยิ่งชอบ ยิ่งเชียร์ คนเกลียดตู่ก็ยิ่งยัวะ ยิ่งหมั่นไส้ ในโลกออนไลน์ด่าขรม
ไม่รู้ยังไง ดูแล้วไพล่นึกถึงแม้วยุคเรืองอำนาจ ผู้นำไทยในรอบ 2 ทศวรรษ ที่มีอำนาจมาก ที่มีคนรักมากเกลียดมาก ปากกล้า ท้าทาย ยืนซดฝ่ายตรงข้ามอย่างแข็งกร้าว ก็มีแต่ทักษิณกับประยุทธ์เท่านั้น
แม้หลายอย่างต่างกัน ทักษิณเป็นอัศวินคลื่นลูกที่สาม ชนะเลือกตั้งด้วยนโยบาย ถล่มทลาย 19 ล้านเสียง สร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทย ประยุทธ์เป็นอัศวินโบราณ ทำรัฐประหารย้อนยุค แต่อยู่นานถึง 5 ปี ซ้ำยังสืบทอดอำนาจได้ เป็นประวัติศาสตร์รัฐประหารไทยเหมือนกัน ถึงแม้มีคนเลือกมาเป็นนายกฯ แค่ 8.9 ล้าน มีคนต้าน 16.5 ล้าน
เป็นประวัติศาสตร์โลกด้วยซ้ำ ไทยแลนด์โอนลี่ โลก ยุคนี้มีที่ไหน เดินทางไปเวทีนานาชาติ ผู้นำโลกก็ทึ่งกัน ใหญ่ นั่นไง ผู้นำไทยที่ตั้ง 250 ส.ว.มาโหวตตัวเองเป็น นายกฯ โลกนี้ไม่มีใครทำได้
แม้วเก่งนักใช่ไหม ตู่จะโชว์ให้เห็นว่าเก่งกว่า เป็นนายกฯ ควบกลาโหม เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ คุมเองทั้งตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ สมแล้วที่ชี้หน้าฝ่ายค้าน มีคดีความเป็นพัน
โลกออนไลน์ตั้งข้อสังเกตขบขัน ตั้งแต่เริ่มรัฐบาล คนรอบข้าง ยกเว้น ปชป. กปปส. ก็อยู่กับทักษิณมาทั้งนั้น อนุพงษ์ ประวิตร สมคิด วิษณุ สามมิตร สมศักดิ์ สุริยะ อนุทิน (เนวิน) พรรคร่วมรัฐบาล ไม่เว้นแม้ “เอ๋ ปารีณา” สมัยนั้นก็เป็นโฆษกประธานรัฐสภา จวก 27 ส.ว.ยื่นถอดถอนทักษิณว่า “แก๊งกวนเมืองข้างถนน”
ที่ยิ่งคล้ายกันเข้าไปอีกคือมีวิษณุช่วยอธิบาย เพียงเสียดาย คนที่ไม่เชื่อวิษณุอธิบายเรื่องวัดพระแก้ว ตอนนี้กลับเชื่อเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ
หวังว่าถ้าพ้นยุคตู่ ประเทศนี้คงไม่ต้องพึ่งวิษณุ ผู้ไม่กะล่อน จนได้รับใช้มา 8 นายกฯ 12 รัฐบาล
ทักษิณถูกไล่เพราะคนชั้นกลางในเมืองมองว่าอำนาจนิยม ผลประโยชน์ทับซ้อน ภาคประชาสังคมชี้หน้า ว่าสนับสนุน “ทุนสามานย์” การขยายตัวของเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ รุกไล่การทำมาหากินของคนเล็กคนน้อย
ถ้ามองว่าสมัยทักษิณอำนาจนิยม ใช้อำนาจไต่เส้น สมัยประยุทธ์ก็ไม่รู้จะเรียกอย่างไร ใช้อำนาจแบบไม่ต้องมีขอบเขตด้วยซ้ำ กระทั่งคุยได้ว่าอยู่เหนือ 3 อำนาจมา 5 ปี เพียงแต่ คนยังมองว่าประยุทธ์ “ไม่โกง” ส่วน “ทุนสามานย์” นะหรือ วันนี้ใครๆ ก็พูดถึงความเหลื่อมล้ำรวยจนต่างกันสุดโต่ง
ทักษิณมีคนรักมาก พีกสุด 19 ล้าน ตู่ก็มีคนรักมาก พีกสุด 8.9 ล้าน คนรักทักษิณเพราะนโยบายกองทุนหมู่บ้าน 30 บาท โอท็อป SML ส่วนคนรักตู่ไม่รู้เหมือนกันเพราะอะไร บัตรคนจนก็เพิ่งมาตอนท้าย อ้อ บ้านเมืองสงบไง คนรักตู่พอใจที่นักการเมืองเพื่อไทยเสื้อแดงไม่ได้กลับมามีอำนาจ
พูดอีกอย่าง คนรักตู่รักเพราะความเกลียดทักษิณ ซึ่งฆ่าไม่ตายสักที เลือกตั้งครั้งไรก็ชนะ จนพาลเกลียด “ระบอบทักษิณ” ซึ่งในความหมายของ กปปส. ก็คือเกลียดระบอบเลือกตั้ง เกลียดเสื้อแดง เกลียดคนเหนือคนอีสาน ที่ดันมีหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงเท่ากัน เพราะฉะนั้น จึงหนุนให้ตั้ง 250 ส.ว. โดยไม่สนว่าตั้งพวกตั้งญาติหรือเลียรองเท้า
ท้ายที่สุด ใครเอาประชาธิปไตยก็เกลียดทั้งนั้น รวมทั้ง ธนาธร อนาคตใหม่ ยิ่งดูท่าประชาธิปไตยจ๋ากว่าทักษิณ ยิ่งต้องทำลายให้ได้
ทักษิณล้มง่าย ทั้งที่มีคนรักมากกว่าคนเกลียด เพราะทักษิณได้อำนาจจากเลือกตั้ง ทักษิณมีเงินมหาศาล จนเชื่อ กันว่าซื้อสื่อฝรั่งได้ (ยกเว้นเว็บข่าวปลอม โทนี คาตาลุคซี) แต่ทักษิณไม่มีปืน ทักษิณไม่มีกฎหมาย แม้เชื่อกันว่า ทักษิณแทรกแซงองค์กรอิสระ แม้สามารถสั่งสภาลักหลับตอนตีสี่
แต่ทักษิณก็พ่ายแพ้ต่อเครือข่ายอำนาจ ที่หนุนตู่อยู่ทุก วันนี้
ตู่จึงล้มยาก ทั้งที่มีคนรักน้อยกว่าคนเกลียด แต่ตู่เป็นตัวแทนของเครือข่ายอำนาจ ที่กุมปืนกุมกฎหมาย ซึ่งในแง่นี้ ใครว่าไม่ทับซ้อน เพราะเป็นเครือข่ายผลประโยชน์ชนชั้นนำภาครัฐ ที่ยอมเสียอำนาจไม่ได้
คนเกลียดทักษิณสะใจไปแล้ว แต่ยังไม่พอใจ ขณะที่คนเกลียดตู่ยังไม่สมหวัง แม้ยากจะบรรลุเป้าหมาย ตู่ล้มไม่ง่าย แต่ล้มเมื่อไหร่ ล้มดัง เพราะไม่ได้พังคนเดียว แต่กองทัพ องค์กรกฎหมาย องค์กรอิสระ รัฐราชการ รวมทั้งกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ ต้องรับผิดชอบร่วมกับตู่ด้วย
