FootNote : เผือกร้อนประยุทธ์ถวายสัตย์ ตกลงบนมือศาลรัฐธรรมนูญ

เหตุใดคำประกาศที่ว่า “ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” ต่อกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม จึงกลายเป็นปัญหา จึงกลายเป็น “เผือกร้อน”

ทั้งๆที่หลายฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า เมื่อมีข้อผิดพลาดก็สามารถแก้ไขให้ถูกต้อง

นั่นก็โดยการถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่

แล้วเหตุใดไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าคนที่แวดล้อมอยู่โดยรอบก็ไม่ยอมปฏิบัติ อะไรคือเหตุปัจจัย อะไรคือปมเงื่อนทำให้ยืดเยื้อคาราคาซัง

คำตอบก็คือ หากการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่มีความสมบูรณ์ ก็จะทำให้กรณีอื่นๆ ตามมามีความไม่สมบูรณ์ไปด้วย

นั่นก็คือครม.อาจมิได้เป็นครม.โดยสมบูรณ์ครบถ้วน

ประเด็นของสถานการณ์ในวันที่ 16 กรกฏาคม กับสถานการณ์อันตามหลังมาจึงมีความยึดโยงสัมพันธ์ อันยากที่จะแยกออกจากกันได้

ความหมายก็คือ รัฐบาลยังไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้

ความหมายมิได้หมายความว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคม จักต้องกลายเป็น “โมฆะ”ไปด้วยเท่านั้น

หากแม้กระทั่ง “มติครม.” ก็จะกลายเป็นประเด็น กลายเป็นคำถาม

ทันทีที่มีการฟ้องร้องก็จะเป็นเรื่อง

นั่นก็คือ ครม.ไม่เพียงแต่จะต้องถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่ หากครม.ก็จะต้องแถลงนโยบายใหม่ เพราะทุกอย่างที่กระทำตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ล้วนไม่มีผลทางการปฏิบัติ

จำเป็นต้อง “ลบ”แล้วเริ่มต้นนับ 1 ใหม่

ต้องยอมรับว่าพลันที่มีการเปล่ง “ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”ออกมาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เบื้องหน้ารัฐมนตรีและผู้บริหารระดับ สูงจำนวน 800 กว่าคน

นั่นก็คือ การเปล่งคำ “สารภาพ”ว่าได้ “ทำผิด”

บทสรุปไม่ว่าจะจากผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานอัยการสูงสุด จึงจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากจะถือเอาตามข้อเท็จจริงของวัน ที่ 16 กรกฎาคมเป็นสำคัญ

นี่คือเผือกร้อนที่จะตกลงในมือ “ศาลรัฐธรรมนูญ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน