คอลัมน์ ออกจากกรอบ : ฮักเชิล คิม

หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ตั้งแต่ปี 1950 ประเทศเกาหลีใต้อยู่ในสภาพย่ำแย่เนื่องจากภาวะสงคราม จนมีคำกล่าวว่า จะไม่สามารถเป็นประเทศที่ลุกขึ้นได้อีกเลย ในยุคสมัยประธานาธิบดีพักจองฮี ได้มีอีกบุคคลหนึ่งที่ทำให้ประเทศเล็กๆ นี้ กลายมาเป็นประเทศที่มีกราฟการเจริญเติบโตทางเศรฐกิจที่พุ่งสูงขึ้นในระยะเวลาเพียงไม่กี่สิบปี เขาคือ ประธานชองจูยอง แห่งฮุนได กรุ๊ปครับ คุณชองจูยองได้สร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมาหลายอย่างในชีวิตของท่าน แม้ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้วแต่เราสามารถเรียนรู้การมีสติปัญญาแบบท่านได้ผ่านทางตัวอย่างต่อไปนี้ครับ

ในช่วงสงครามในปี 1953 ท่านได้รับโครงการสร้างสะพานกอลยอง (Golyong Bridge Project) เป็นสะพานที่สร้างลำบากที่สุดสำหรับท่าน เพราะตอนที่ดำเนินงาน เงินในการก่อสร้างติดลบเกินเงินทุนที่รัฐบาลให้มา ท่านต้องขายบ้านน้อง ขายบ้านตัวเอง ขายที่ดินที่เคยทำธุรกิจ เพื่อรวบรวมเงินมาสร้างสะพานนี้จนสำเร็จได้ภายในสองปี ท่านบอกว่า “คนเราถ้าล้มเหลวในงานธุรกิจจะลุกขึ้นมาได้ แต่ถ้าผู้บริหารสูญเสียความเชื่อถือจะลุกขึ้นไม่ได้”

ผู้นำแห่งฮุนได กรุ๊ปมองว่า ‘ความน่าเชื่อถือ’ เป็นสิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญ ในช่วงเวลาที่ เหนื่อยและลำบากที่สุดในชีวิต มีหนี้สินที่บริษัทต้องชดใช้ถึง 20 ปี ถึงแม้คุณชองจูยองสูญเสียสิ่งที่มองเห็นด้วยตาเยอะแยะมากมายในตอนนั้น แต่กลับได้สิ่งที่เรียกว่าความน่าเชื่อถือจากรัฐบาล ตั้งแต่ตอนนั้นกรุ๊ปฮุนไดจึงได้กำไรมหาศาลจากความน่าเชื่อถือนี้

ปี 1984 ท่านเป็นผู้ดูแลโครงการสร้างเขื่อนปิดกั้นพื้นที่น้ำทะเลเพื่อเป็นพื้นที่ใช้สอยทางการเกษตร โครงการนี้ใช้คน 2,350,000 คนในการก่อสร้าง และใช้รถบรรทุกมากกว่า 514,300 คัน ถมดิน แต่ว่าพอมาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการทำเขื่อนยาว 7,700 เมตรนั้นก็มีเกิดปัญหาใหญ่ เพราะเหลือพื้นที่เพียงแค่ 270 เมตรสุดท้ายตรงกลางเท่านั้นที่จะเชื่อมกั้นน้ำได้ แต่กระแสน้ำที่ไหลผ่านช่องนี้ไหลเชี่ยวมาก ต่อให้เอาหินที่หนัก 10 ตัน เทลงไป ก็ยังถูกพัดหายไปกับกระแสน้ำ

ในโครงการก่อสร้างครั้งนั้นมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยให้คำปรึกษา แม้ว่าจะพยายามแก้ไขปัญหาก็แก้ไม่ได้ กลายเป็นวิกฤตหนักในขณะนั้น คุณชองจูยองคิดว่าถ้าเอาเรือบรรทุกมาทำให้จมตรงช่องที่กระแสน้ำไหลผ่านก็จะสามารถลดแรงไหลของน้ำได้ แต่ยุทธศาสตร์นี้หลายคนมองว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเรือมีไว้ลอยเท่านั้น ท่านตอบกลับคนเหล่านั้นไปว่า ได้ลองทำแล้วหรือยัง? พอท่านประธานสั่ง ก็ซื้อเรือบรรทุกน้ำมันเก่าหนัก 226,000 ตัน มาใส่น้ำลงไปในเรือที่มีขนาดยาว 320 เมตร กว้าง 45เมตร สูง 27 เมตร และทำให้จม เมื่อเอาเรือมากั้นแรงน้ำก็ลดกระแสลงจนสามารถเทดินลงไปเชื่อมกั้นเป็นเขื่อนได้

ท่านไม่ได้มีการศึกษาสูงแต่ท่านมี แนวคิดว่า “ถ้าคนเราใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ ทุกคนต้องเจอความยากลำบาก แต่ความยากลำบากเหล่านี้มีไว้ให้ฝ่าฟัน ไม่ได้มีไว้ให้ล้มต่อหน้า เพราะฉะนั้นปัญหาทุกอย่างที่เราเจอ จริงๆ แล้วทุกอย่างเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ สำหรับผมคิดว่าชีวิตเราไม่มีความยากลำบาก”

ประธานชองจูยองเคยผ่านความยากลำบากมาหลายอย่าง ยิ่งเจอความลำบากท่านยิ่งชนและเริ่มมีกล้ามเนื้อจิตใจเพิ่มมากขึ้น สำหรับคนที่ตอบโต้กับความยากลำบากนั้น จะมีสติปัญญาใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ พอกลับมาเจอความยากลำบากอีกหลายครั้งก็จะไม่มองว่ายากลำบากอีกต่อไปครับ เพราะฉะนั้นการตอบโต้กับความยากลำบาก ปัญหา หรืออุปสรรคทำให้เราสามารถเป็นคนที่เข้มแข็งได้ ผมอยากให้คุณลองมองว่าความยากลำบากเป็นสิ่งที่ดีและสนุกกับความยากลำบากแบบคุณชองจูยองครับ


ดร.(กิตติมศักดิ์) ฮักเชิล คิม
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประจำประเทศไทย
FB : Mind World by Kim Hak Cheol, Ph.D.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน