FootNote:สปอตไลต์ฉายจับนักการเมือง ผ่านบทบาท สิระ เจนจาคะ

มีความพยายามจะตัดทอนกรณีของ นายสิระ เจนจาคะ ให้แยกส่วนออกจากพรรคพลังประชารัฐ โดยเน้นให้เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค

ไม่ว่าจะเป็นท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ในที่สุดพรรคพลังประชารัฐก็ออกมา “ขอโทษ”

กระนั้น หากพิจารณาบทบาทและการแสดงออกของ นายสิระ เจนจาคะ ก็จะมองเห็นถึงความสัมพันธ์และลักษณะยึดโยงอันยาวนาน

ไม่เพียงแต่กับพรรคพลังประชารัฐหากต่อเนื่องไปยังบทบาท ในห้วงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

และบำเหน็จอันขบวนการรัฐประหารมอบให้

ต้องยอมรับว่าพื้นฐานของ นายสิระ เจนจาคะ คือแกนนำสำคัญที่อยู่ในกลุ่มของ “นายสุวิทย์” บริเวณแยกแจ้งวัฒนะ ซึ่งไม่เพียงโดดเด่นด้วยอิทธิพลแห่ง”กรวย”

หากที่อึกทึกเป็นอย่างมากก็คือ การผลักดัน”มือปืนป๊อบคอร์น” ในจุดปะทะที่หลักสี่

เมื่อโยงบทบาทและความหมายก็มิอาจแยกออกได้จากบทบาทของมวลมหาประชาชน กปปส.ภายใต้การนำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

นั่นก็คือ บทบาทในการ”ชัตดาวน์” กทม. บทบาทในการสกัดขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557

รัฐประหารก็มาจากการปูทางสร้างเงื่อนไขของคนเหล่านี้

อย่าได้แปลกใจหาก นายสิระ เจนจาคะ จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และภายหลังก็เหมือนกระดานหกเข้ามาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ

“ส่วนตัว”ตั้งแต่ปี 2557 จึงแนบแน่นอยู่กับ”รัฐประหาร”

นายสิริ เจนจาคะ จึงได้รับการหล่อหลอมมาท่ามกลางการต่อสู้อันแหลมคมทางการเมือง

จากต่อสู้บน”ท้องถนน” ไปยังต่อสู้ใน”รัฐสภา”

ไม่ว่าการต่อสู้บนท้องถนน ไม่ว่าการต่อสู้ในรัฐสภาจึงดำเนินไปภายใต้เหตุผลและข้ออ้างว่าทำเพื่อชาติ ทำเพื่อแผ่นดิน ทำเพื่อประชาชน

สถานการณ์แจ้งวัฒนะต่อเนื่องไปยังสถานการณ์ภูเก็ตเริ่มพิสูจน์และตรวจสอบนักการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน