FootNote:ด่านแรก ด่านหิน ประชุมลับ ทดสอบ ปมเอกภาพ รัฐบาล
ไม่ว่าการนำเสนอกลยุทธ์ “ประชุมลับ” จะมาจากสมองก้อนโตของ”กุนซือ”ท่านใดในรัฐบาล เป็นทหารหรือว่าเป็นนักการเมือง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นกลยุทธ์อันเปี่ยมด้วยความหวาดเสียว
ยิ่งหากมองจากพื้นฐาน 251 เสียงจาก ส.ส.ที่เคยขานชื่อมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งชวนให้สยดสยองให้อารมณ์
เพราะนับจากการขานชื่อเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน มาถึงเดือนกันยายน สภาพก็ดำเนินไปบนพื้นฐานแห่งหลักอนิจจังอย่างเด่นชัด
ไม่ว่าความรู้สึกของ 2 เสียงของพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ไม่ว่า 1 เสียงของพรรคไทยศรีวิไลซ์ ไม่ว่า 53 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์
ยิ่ง 1 เสียงของพรรคประชาชนปฏิรูป ยิ่งลูกผีลูกคน
แม้น้ำเสียงของนายศุภชัย โพธิ์สุ จะโน้มเอียงไปทางด้านประชุมลับอย่างเด่นชัด แต่แน่ใจหรือว่าพรรคภูมิใจไทยจะยอมรับบทนำหน้าในการเสนอต่อที่ประชุม
นักการเมืองที่ผ่านร้อนหนาวระดับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่น่าจะเล่นบทวีรชนแน่นอน
ขณะที่กล่าวสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ การดำรงอยู่ของ นายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร เปี่ยมด้วยหลักการมากเพียงใด
เพียงอ่านความเห็นของ นายเทพไท เสนพงศ์ จากนครศรีธรรมราชก็ชัดเจน
กองหน้าในเรื่องนี้จึงต้องเป็นพรรคพลังประชารัฐ
ภาระหนักครั้งนี้จึงตกอยู่บนบ่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ประสานเข้ากับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
กระนั้น พรรคพลังประชารัฐก็มีเพียง 116 เท่านั้น
จึงอาจกล่าวได้ว่า กลยุทธ์ “ประชุมลับ” อันผลักดันมาจากพรรคพลังประชารัฐเพื่อปลอบประโลมใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่แน่ว่าจะราบรื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขา
กลายเป็นด่านแรกของการทดสอบเอกภาพและเสถียรภาพของรัฐบาล
ขณะที่ต้องชนกับเหตุผลและความชอบธรรมภายในกระบวนการรัฐสภาอย่างหนักหน่วง
ทั้งนี้ แทบไม่ต้องเอ่ยถึง”ความหาญกล้า”ทางการเมือง
