FootNote:ประเมินจังหวะประชาธิปัตย์ รุกคืบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ต้องยอมรับว่า จังหวะก้าวของพรรคประชาธิปัตย์ต่อการเสนอญัตติให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เป็นจังหวะก้าวอันเนียนนุ่มและเพียบพร้อมด้วยเหตุผลในทางการเมือง
เป็นการเมืองที่สุจริต เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์
เพราะอยู่บนหลักการที่ว่านี่คือเงื่อนไขและข้อต่อรองที่พรรคประชาธิปัตย์วางเอาไว้ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล
หากทางพรรคพลังประชารัฐไม่ยอมรับก็จะไม่ได้ยิน 53 เสียงในการขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิถุนายนเป็นอันขาด
ผลก็คือพรรคพลังประชารัฐตอบตกลงตามเงื่อนไข
ดังนั้น ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม การแก้ไขรัฐบาล จึงเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
คำว่า “เร่งด่วน”ในที่นี้ความหมายย่อมหมายความว่าจะต้องทำภายใน 1 ปี
จากเดือนกรกฎาคมผ่านเดือนสิงหาคมมายังเดือนกันยายนจึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะเริ่มก้าวแรกในการปฏิบัติตามนโยบาย
นั่นก็คือ การเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาหาแนวทางว่าจะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร
เวลาจึงไม่ได้เร่งเร้า หรือล่าช้าจนเกินการณ์
การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำตามระเบียบข้อบังคับของพรรคครบถ้วนทุกประการ โดยการเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสส.และกำหนดเป็นมติ
ยึดกุมแนวทางรัฐสภาในการดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์
จังหวะก้าวของพรรคประชาธิปัตย์ถูกต้องตามหลักแห่งรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของรัฐบาล
เป็นการเลือกจังหวะและเวลาที่เหมาะสม
ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตรวจสอบอุณหภูมิทางการเมืองได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิทางด้านรัฐบาลว่ามีความพร้อมมีความสุกงอมหรือไม่เพียงใด
ไม่ว่าอุณหภูมิในทางสังคมว่าพร้อมหรือไม่พร้อม