เลือกซ่อมไม่คำนวณ ส.ส.ใหม่ :คอลัมน์ ใบตองแห้ง

กกต.เตรียมจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐมเขต 5 ใน 45 วัน หลัง ส.ส.อนาคตใหม่จำต้องลาออกเพราะประสบอุบัติเหตุรักษาตัวไม่หาย คิวต่อไปยังต้องเลือกซ่อม ส.ส.กำแพงเพชรเขต 2 หลัง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 4 ปี

ทั้งรัฐบาลฝ่ายล้วนคึกคัก เตรียมวัดคะแนนนิยมชิงเก้าอี้ บางคนยังหวังว่าเลือกตั้งซ่อม 2 ครั้งนี้จะเปลี่ยนสัดส่วน “ปริ่มน้ำ” เมื่อเอามาคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์กันใหม่ ทั้งยังเตรียมจับตาว่า กกต.จะเอาคะแนนพรรคน้อมนำพระพุทธเจ้ามาคำนวณอย่างไร

แต่ช้าก่อน ยังรู้จักความพิสดารพันเจ็ดของรัฐธรรมนูญ กรธ.มีชัยน้อยไป เลือกซ่อมครั้งนี้จะไม่เหมือนเขต 8 เชียงใหม่ ที่คำนวณใหม่แล้ว “ตั๊น พันเจ็ด” ได้เป็น ส.ส.แทนไทรักธรรม

เพราะเลือกซ่อม 2 ครั้งนี้ จะไม่มีการคำนวณใหม่ เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 94 และ พ.ร.บ.เลือกตั้งมาตรา 131 ที่บัญญัติว่า ภายในหนึ่งปีหลังจากวันเลือกตั้งอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ถ้าต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดขึ้นใหม่ “เพราะเหตุที่การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม” ให้คำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่

นั่นคือต้องการเป็นการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดจาก กกต.แจกใบส้มใบเหลืองหรือศาลแจกใบแดงใบดำเท่านั้น จึงคำนวณใหม่

มาตรา 131 วรรคสาม บัญญัติว่า การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างไม่ว่าด้วยเหตุใดภายหลังพ้นเวลาหนึ่งปีนับแต่วันเลือกตั้งทั่วไป มิให้มีผลกระทบกับการคำนวณ ส.ส.ที่แต่ละพรรคการเมืองจะพึงมี ตามมาตรา 128 แล้ววรรคสี่ก็บัญญัติว่า ให้นำบังคับใช้กับการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างด้วยเหตุอื่นใด ก่อนพ้นเวลาหนึ่งปี โดยอนุโลม

การเลือกตั้งซ่อมเพราะ ส.ส.ป่วยต้องลาออก เพราะ ส.ส.ถูกตัดสินจำคุกขาดคุณสมบัติ จึงเข้าข่ายนี้ ไม่ต้องคำนวณใหม่ ไม่ให้กระทบจำนวน ส.ส.พึงมี ที่ กกต.คำนวณไว้เมื่อวันที่ 28 พ.ค.62 เช่น พลังประชารัฐ 118.6854 อนาคตใหม่ 89.0093 ประชาธิปัตย์ 55.6691 ภูมิใจไทย 52.5070 (ซึ่งหลังเอาไปผ่านสูตรทศนิยมก็เหลือ 116,81,53,51)

อ้าว แล้วจะเลือกไปทำไม ก็จำเป็นต้องเลือกคนแทนไง แต่เอาแค่ใครชนะที่ 1 ได้เป็น ส.ส.เขต คะแนนที่ใช้คำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้ใช้คะแนนเดิมของทุกพรรคเมื่อวันที่ 24 มี.ค. เพราะถือว่ายังเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

ดังนั้น ยกตัวอย่างนครปฐม พรรคเล็กพรรคน้อยพรรครองก็ไม่ต้องลงสมัครให้เมื่อยตุ้ม หาเสียงไปก็ไลฟ์บอย ให้ 3-4 ตัวเก็งเขาแข่งกัน เพราะ 168 คะแนนของพรรคน้อมนำฯ ก็ยังอยู่

ถ้าอนาคตใหม่ชนะ ไม่ว่าคะแนนเท่าไหร่ ที่สองที่สามได้กี่หมื่น ทุกอย่างจะเหมือนเดิม แต่ที่มันประหลาด คือต่อให้อนาคตใหม่แพ้ พปชร.ชนะ ก็แค่เปลี่ยนตัว ส.ส.เขต ไม่เปลี่ยนจำนวน ส.ส.ของพรรค เพราะจำนวนพึงมียังเท่าเดิม ส.ส.เขตเพิ่ม 1 ลด 1 เมื่อผ่านสูตรทศนิยม ตัวเลขเปลี่ยนนิดหน่อย แต่จำนวน ส.ส.ก็ยังเป็น 116 กับ 81 เท่าเดิม

แถมประชาชนยังจะได้เห็นเรื่องพิกล คือถ้าอนาคตใหม่แพ้ พปชร.ชนะ อนาคตใหม่ก็จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่ม 1 คน แต่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับสุดท้าย พปชร.ตกเก้าอี้ (ในกรณีที่ ปชป.ชนะก็เช่นกัน)

เลือกตั้งอย่างนี้คงจืดชืด ไม่น่าลุ้นเลย แต่ช้าแต่ เลือกตั้งครั้งนี้ยังมี Joker ที่วางแผนมาทะลวงระบบเลือกตั้งมีชัยโดยเฉพาะ นั่นคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ ส.ส.เขต 136 คน เกินจำนวนพึงมี 110.8097 ทำให้ระบบ error จนต้องใช้สูตรทศนิยม

สมมติเพื่อไทยลงสมัครนครปฐมแล้วชนะ (ซึ่งปิยบุตรบอกเป็นสิทธิที่จะลงแข่ง กกต.ก็ห้ามไม่ได้ เพียงต้องมีสาขาพรรคประจำจังหวัด) สมมติเพื่อไทยพลิกชนะที่กำแพงเพชร จะเกิดอะไร

สมมติเพื่อไทยได้ ส.ส.เขตเพิ่ม 2 คน เป็น 138 กฎหมายบอกเลือกซ่อมไม่ให้กระทบจำนวน ส.ส.พึงมี ก็ใช่ครับ ไม่กระทบจำนวนพึงมีก่อนใช้สูตรทศนิยมปรับให้เหลือ 150 คนอีกครั้ง แต่พอปรับแล้ว จะมี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 2 คนจาก 2 พรรคที่มีเศษทศนิยมน้อยที่สุด ตกเก้าอี้ไป

พรรคที่ได้ปัดเศษจากทศนิยมน้อยที่สุดตอนนี้คือ ประชาธิปัตย์ (19.4094) ตามด้วยพลังธรรมใหม่ (0.4225) ประชาธิปไตยใหม่ (0.4726)

มันก็จะเกิดปรากฏการณ์ประหลาด สมมติเพื่อไทยชนะอนาคตใหม่ที่นครปฐม ชนะ พปชร.ที่กำแพงเพชร อนาคตใหม่กับ พปชร.ก็ยังมี ส.ส.เท่าเดิม แต่กลายเป็น ปชป. ตามด้วยพลังธรรมใหม่ตกเก้าอี้

ปรากฏการณ์นี้อาจไม่เกิดตอนนี้ก็ได้ แต่เมื่อไหร่ที่มีการเลือกตั้งซ่อม โดยไม่คำนวณใหม่ (ตาย,ลาออก,ขาดคุณสมบัติ) ถ้าเพื่อไทยแย่ง ส.ส.เขตพรรคอื่นได้ ก็จะไปเขี่ยทศนิยมตามลำดับ เว้นแต่เพื่อไทยโดนเสียเอง ก็ต้องรักษาเก้าอี้ให้ได้

ฝากถาม กกต. ช่วยยืนยันว่าสูตรเลือกตั้งซ่อมเป็นอย่างนี้ใช่ไหม ทุกพรรคจะได้เตรียมตัว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน