FootNote : เลือกตั้ง “ร้อน” เลือกตั้ง “ซ่อม” นครปฐม เป็นเวที ระดับชาติ
พลันที่พรรคชาติไทยพัฒนาประกาศความพร้อมในการส่ง นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขต 5 นครปฐม อีกครั้งหนึ่ง
ไม่เพียงแต่พรรคอนาคตใหม่จะเหนื่อย หากพรรคประชาธิปัตย์จะยิ่งเหนือยเป็นทบเท่าพันทวี
แม้จะมีความเด่นชัดจากพรรคพลังประชารัฐว่าจะไม่ส่ง นายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว ลงสมัครก็ตาม เพราะไม่เพียงแต่จะถูกแย่งดึงจาก นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เท่านั้น
หากไม่มีอะไรแน่นอนว่า 18,741 คะแนนอันเคยเป็นของ นายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว จะเป็นของ นายสุรชัย อนุตธโต จากพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ชูธงเลือกตั้งเพื่อปรับดุลมั่นแน่ว
การตัดสินใจของพรรคชาติไทยพัฒนาประสานกับความมุ่งมั่นของ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ กระทำบนความเชื่อมั่นอย่างน้อย 2 ประการ
1 ความเชื่อมั่นในตัว นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ความเชื่อมั่น ในศักดิ์ศรีและความเป็น “สะสมทรัพย์”
1 ความเชื่อมั่นในฐานคะแนนเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา
หากเป็นการเลือกตั้งในยุคก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ฐาน 2 ฐานนี้มีความแข็งแกร่งและมั่นคงเป็นอย่างสูง
แต่สถานการณ์รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ก่อให้เกิด “ภูมิทัศน์”ใหม่ทางการเมือง
แม้ตระกูล “สะสมทรัพย์”จะไปผนวกรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนาอันเป็นพรรคชาติไทยเดิม ซึ่ง ณ วันนี้เป็นส่วนหนึ่งอยู่กับการสืบทอดอำนาจของคสช.
แต่อำนาจของคสช.มิได้อยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้น หากแต่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐด้วย
ความแตกแยกภายในรัฐบาลเมื่อประสบเข้ากับการเลือกตั้งซ่อมนครปฐมนี้เอง ที่ก่อให้เกิดการท้าทายในประเด็นอันเกี่ยวกับดุลอำนาจทางการเมืองอย่างแหลมคมยิ่ง
การเลือกตั้งครั้งนี้มิได้เป็นการเลือกตั้งแบบกระจัดกระจาย
ตรงกันข้ามเป็นการเลือกตั้งอันมีลักษณะทางยุทธศาสตร์ นั่นก็คือ จะเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่เอา
นี่คือประเด็นที่พรรคอนาคตใหม่ชูขึ้นมาสูงเด่น