เศรษฐกิจโลกดิ่ง

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

เศรษฐกิจโลกดิ่ง – กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ไอเอ็มเอฟ แถลงปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกของปี 2562 จากเดิมร้อยละ 3.2 เป็นร้อยละ 3.0

อัตรานี้เป็นระดับอ่อนแอที่สุดตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินโลกปี 2550-2552

ส่วนตัวเลขการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกต่อไปในปี 2563 จะอ่อนแอลงเช่นกัน ปรับลดจากร้อยละ 3.5 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.4

การประกาศตัวเลขดังกล่าวตรงกับช่วงที่สภา ผู้แทนฯ ของไทยเปิดอภิปรายพิจารณางบประมาณปี 2563 ยิ่งทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยหลีกเลี่ยงผลกระทบนี้ไม่ได้

เพียงแต่จะบริหารการใช้จ่ายอย่างไรให้ประชาชนได้รับผลกระทบทางลบน้อยที่สุด

ไอเอ็มเอฟวิเคราะห์ว่าปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโลกในปี 2563 อ่อนแอและตกอยู่ในความเสี่ยง มาจากความตึงเครียดทางการเมืองและการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น

เศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐ อเมริกาอยู่ในภาวะชะลอตัว ร้อยละ 2.1 ลดลงจากปี 2562 ที่คาดการณ์ไว้ร้อยละ 2.4

ส่วนมหาอำนาจจีน ลดลงสู่ร้อยละ 5.8 น้อยลงจากปีนี้ที่มีอัตราขยายตัวร้อยละ 6.1 นับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2533

ทางออกที่ไอเอ็มเอฟนำเสนอ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชาติมหาอำนาจโดยตรง ไม่ว่า การยกเลิกการกีดกันทางการค้า พร้อมทำข้อ ตกลงถาวร และคลี่คลายความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ขณะที่ประเทศไทยต้องตั้งรับและปรับตัวให้อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดนี้ให้ได้

คําถามหลักเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลผ่านร่างกฎหมายที่เข้าสู่การพิจารณาของสภา จึงอยู่ที่ประเด็นว่าเหมาะสมกับสถานการณ์แล้วหรือไม่

ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากการจัดสรรงบครั้งนี้หรือไม่

งบประมาณใช้จ่ายที่ทุ่มลงไป 3.2 ล้านล้านบาทนี้จะส่งผลดีหรือช่วยประคองเศรษฐกิจของประเทศท่ามกลางปัญหาและอุปสรรคของเศรษฐกิจโลกได้หรือไม่

หากรัฐบาลมั่นใจว่ามีตัวแทนที่ครองเสียงข้างมากในสภาเพียงพอที่จะผ่านร่างกฎหมายนี้ได้ ควรต้องมั่นใจด้วย ว่ารับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนได้ชัดเจนถูกต้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน