สูตรอลเวง
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
สูตรอลเวง : การคำนวณสัดส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบปาร์ตี้ลิสต์ นับจากการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 ยังคงเป็นปมที่ดูซับซ้อนถึงปัจจุบัน และน่าจะมีต่อไปอีกเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมในอนาคต
กรณีล่าสุดที่ตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา ชนะการเลือกตั้งซ่อม จ.นครปฐม ผลนี้ส่งถึงสัดส่วน ส.ส.พึงมี
พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 131 ไม่ให้เปลี่ยนจำนวน ส.ส.รวมของแต่ละพรรค และใช้ฐานคะแนนเดิมของแต่ละพรรค
หากเป็นตามนี้หมายความว่าพรรคที่เสียส.ส.เขต จะไปได้ส.ส.สัดส่วนเพิ่มขึ้น
กรณีนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิสหวิทยาการ ราชบัณฑิตย สภาแสดงความเห็นว่า เมื่อพรรคอนาคตใหม่แพ้การเลือกตั้งเขต 5 นครปฐม จะต้องได้ส.ส.สัดส่วนเพิ่ม 1 คน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องตัดออกไป 1 คน
กกต.ยังไม่ให้คำตอบเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลว่า อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายอย่างละเอียดและจะประชุมกันก่อน
เบื้องต้นมีความพยายามจะอธิบายว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ย่อมไม่จำเป็นต้องมีการคำนวณหาส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ใหม่
แต่คำอธิบายนี้เป็นการสรุปที่ไม่ชัดเจนในข้อกฎหมาย เพราะไม่มีมาตราใดระบุว่าไม่ให้คำนวณใหม่
ข้อกฎหมาย พ.ร.ป.มาตรา 131 ระบุถึงกรณีที่ส.ส.ลาออกหรือเสียชีวิต ไม่ให้นำคะแนนใหม่ที่มาจากเลือกซ่อมมาใช้ แต่ไม่ได้ห้ามว่าต้องใช้คะแนนเดิมสำหรับคำนวณใหม่
การคำนวณใหม่นี้เป็นเรื่องที่กกต.ใช้มาแล้ว ตั้งแต่การเลือกตั้งซ่อมเชียงใหม่ วันที่ 26 พ.ค. ส.ส.ฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้ง แต่การคำนวณนั้นส่งผลให้รัฐบาลได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้น 2 ที่นั่ง
การใช้สูตรดังกล่าวที่ผู้เขียนกฎหมายหวังให้เสียงข้างน้อยขยับขึ้นมามีความหมายขึ้นตั้งแต่แรกนั้น กำลังทำให้เสียงสะท้อนของประชาชนผ่านผู้แทนในสภา กลายเป็นสูตรที่ซับซ้อนยุ่งยาก
หากตัดสินความได้เปรียบ–เสียเปรียบให้ฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลไม่ตรงตามมาตรฐานเดียวกัน สูตรนี้จะกระทบความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกกต. มากขึ้นไปอีก