FootNote:อภิสิทธิ์ เล่นบท แก้รัฐธรรมนูญ เวทีหวนชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ไม่ว่าจะมองผ่าน นายวีระกร คำประกอบ ไม่ว่าจะมองผ่าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ไม่ว่าจะมองผ่าน นายสุชาติ ตันเจริญ
ยากอย่างยิ่งที่จะต่อกรกับ “ประชาธิปัตย์”
ทั้ง 3 คน 2 คนแรกอาจไม่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ 1 คนหลังเริ่มเข้าสู่การเมืองผ่านพรรคประชาธิปัตย์ก่อนจะผันไปอยู่พรรคชาติไทย
ย่อมรู้ดีว่า วิทยายุทธ์ของพรรคประชาธิปัตย์อลังการงานสร้างเพียงใดในทางการเมือง
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ลงทุนถึงกับย้อนกลับไปงัดเอา นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีมาสู้
มีหรือที่พรรคประชาธิปัตย์จะยอมแพ้ให้กับพรรคพลังประชารัฐ
เหมือนกับ นายเทพไท เสนพงศ์ คือตัวเปิดของพรรคประชาธิปัตย์ในการยืนยัน”เงื่อนไข”ที่เคยเสนอก่อนเข้าร่วมรัฐบาล ก่อนขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 5 มิถุนายน
แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่าสถานะของ นายเทพไท เสนพงศ์ ในพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร
เขาเสมอเป็นเพียงหัวหมู่ทะลวงฟัน
อาศัยความจัดเจนตั้งแต่ยุคเคลื่อนไหวอยู่ในมหาวิทยาลัยรามคำแหง กระทั่งผันเข้ามาอยู่ทีมเดียวกันกับ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ แล้วก็เข้าไปยืนเรียงเคียงเงาร่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เมื่อนำเอาประสบการณ์ระดับ นายชวน หลีกภัย ระดับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน มาสอดสวม วิทยายุทธ์ของ นายเทพไท เสนพงศ์ จึงแพรวพราวอย่างมากด้วยสีสัน
มีหรือที่จะทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องหน้าแตก
ต้องยอมรับว่าการดึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาขึ้นเวทีอีกหนหลังจากอำลาจากไปเป็นการวางหมากเอาไว้แล้วอย่างรอบคอบสุขุมเปี่ยมด้วยคัมภีรภาพ
เป็นการเรียกคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ในท่วงทำนองยืนหยัดต่อสู้ในระบบรัฐสภา
เป็นการเรียกคะแนนการหวนคืน “เวที”ที่ช่ำชอง
ไม่เพียงแต่สำหรับ 1 พรรคประชาธิปัตย์ หากแต่ที่สำคัญ 1 คือ ตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอง
อย่าลืมว่าสถานะแคนดิเดต”นายกรัฐมนตรี”ยังดำรงคงอยู่