FootNote : เบื้องหลัง สถานการณ์ ปิดโรงเรียน กับ มวลชนกว่า 5,000 ณ ราชบุรี
หากมองจากสายตาของ “นักการตลาด” ข่าวอื้อฉาวอันมาจากแผนตระเตรียมปิด 4 โรงเรียนก่อนการเดินทางไปตรวจราชการที่ราชบุรีซึ่ง เป็นการอุ่นเครื่องก่อนประชุมครม.สัญจรที่กาญจนบุรี
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
ไม่เพียงแต่ทำให้สามารถกลบข่าวการเปลี่ยนที่ลงจอดเฮลิคอปเตอร์เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ ราษีไศล ศรีสะเกษ เพื่อหลบหนีม็อบของ “สมัชชาคนจน” ได้อย่างเฉียบขาดเท่านั้น
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
หากแต่ยังทำให้การสัญจรของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปยัง ราชบุรี กาญจนบุรี อยู่ในกระแสของ “ข่าว” ได้อย่างต่อเนื่องและเชื่อมโยง
ดีไม่ดีคำสั่ง “ปิดโรงเรียน” ที่ปลิวว่อนในโซเชียลมีเดีย อาจถูกส่ง ออกมาจากจังหวัดด้วยซ้ำไป
หากถามว่าจุดเด่นของกระบวนการสร้างข่าวปิดโรงเรียนเพื่อต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน คืออะไร
หากตอบในกระสวนของ “นักการตลาด”
นี่ย่อมทำให้การเดินทางไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากด้วยสีสัน
เป็นสีสันในลักษณาการ “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง”
อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นใคร ท่านคือนายกรัฐมนตรี ท่านคือ ผบ.ทบ.ที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จในการก่อ รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
หากแต่ยังเป็นผู้นำการรัฐประหารที่สามารถสืบทอดอำนาจทางการเมืองได้จากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ตามกลไกของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
ความเป็นจริงนี้จึงทรงความหมายยิ่งต่อ “ครม.สัญจร”
หากเริ่มต้นจากฐานข้อมูลของผู้ว่าราชการจังหวัด การไปเยือนราชบุรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นสถานการณ์พิเศษ เป็นสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่
หากไม่ยิ่งใหญ่คงไม่มีประชาชนกว่า 4,000 คนแสดงความพร้อมในการจะมาต้อนรับเป็นอันขาด
เมื่อนำเอาจำนวนประชาชนที่ต้องการพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กว่า 4,000 คน ประสานเข้ากับคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กว่า 1,000 คน
นี่ย่อมเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องมโหฬารยิ่งสำหรับราชบุรี