FootNote:กระบวนท่า #อยู่เป็น อยู่ไม่เป็น การลับเขี้ยวของ‘ประชาธิปัตย์’
กรณีพรรคประชาธิปัตย์กำลังเป็นบททดสอบอันแหลมคมยิ่งต่อกรณี #อยู่เป็น และกรณี #อยู่ไม่เป็น
โดยเฉพาะหากมองจากมุมของพรรคพลังประชารัฐ
โดยเฉพาะหากมองจากมุมของพรรครวมพลังประชาชาติไทยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์ตอบรับการเข้าร่วมรัฐบาลและพร้อมขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ต่างยกย่องชมเชย
ยกย่องชมเชยและเห็นว่าการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์สะท้อนสำแดงให้เห็นว่า #อยู่เป็น
แต่พลันที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันจะผลักดัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
พรรคประชาธิปัตย์ก็ถูกมองว่า #อยู่ไม่เป็น
ทั้งๆที่ในความเป็นจริง พรรคประชาธิปัตย์ที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลในวันที่ 5 มิถุนายน มิได้เป็นการตัดสินใจอย่างไม่มี “เงื่อนไข” และเงื่อนไขสำคัญหนึ่ง คือเรื่องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ที่พรรคพลังประชารัฐเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ #อยู่เป็น เพราะมองแต่ด้านที่จะได้ 53 ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์
แต่แสร้งลืม”เงื่อนไข”ไปด้วยการหลับตาข้างหนึ่งแบบ #อยู่เป็น
ลืมไปว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้นรู้ตนเองว่าเป็น”สถาบัน”และเมื่อถึงเวลาอันสมควรก็พร้อมที่จะยืนหยัดใน”เงื่อนไข”ของตนและพร้อมที่จะสำแดงบทบาทในแบบ #อยู่ไม่เป็น
นั่นก็ด้วยการชูภาพ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเพื่อชิงการนำ ทางการเมืองผ่านตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาวีธี การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
อาศัยกลยุทธ์ #อยู่ไม่เป็น เป็น”อาวุธ”ในการต่อรอง
จากนี้จึงเห็นได้ว่า กระบวนการต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินไปทั้งในแบบ #อยู่เป็น และในแบบ #อยู่ไม่เป็น
ภาษาเชิงกลยุทธ์ก็คือ รู้จัก”ยืดหยุ่น” และ “พลิกแพลง”
ยืดหยุ่นที่จะยอมรับสถานะเพียง 53 ส.ส.ของตนเบียดแทรกเข้าไปอยู่ในสถานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่ก็มิได้เข้าร่วมรัฐบาลอย่างเชื่องๆ หากแต่พลิกแพลงภายใต้เงื่อนไข
ในเบื้องต้นจึงถูกมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ # อยู่เป็น ในเบื้องต่อมาจึงถูกมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ # อยู่ไม่เป็น
คำถามอยู่ที่ว่า”กรอบ” #อยู่เป็น #อยู่ไม่เป็น อยู่ตรงไหน